ไม่คาดคิดเล่นสกปรก “แม่ทัพภาคที่ 2” เตรียมตอบโต้ “กัมพูชา” ไม่ต้องรอคำสั่งจากรัฐบาล คาดมีกับระเบิดช่องบกอยู่อีกกว่า 100 ลูก เร่งเก็บกู้ทั้งหมด
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 19 ก.ค. 2568 มีรายงานว่า ที่กองกำลังสุรนารี จ.สุรินทร์ พล.ท.บุญสิน พลาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 แถลงข่าวผลการตรวจกับระเบิดช่องบกว่า จุดแรกที่พบ 3 ทุ่น ลักษณะการวางบนผิวดิน รัศมีการวางห่างกัน 40 เซนติเมตร มีใบไม้ปกปิด
จุดที่สองเจอ 5 ทุ่น การวางเหมือนแบบแรก แต่รัศมีการวางกระจายออกไป ห่างประมาณ 90 เซนติเมตร
จากการกู้กับระเบิดทั้ง 8 ลูก มีตัวอักษรชัดเจน ประกอบการวางสามารถบ่งชี้ได้ว่าเป็นของใหม่ หากเป็นของเก่า จะมีวัชพืชปกคลุม
…
สำหรับจุดที่วางเลยแนวการวางกำลังทหารกัมพูชาประมาณ 100-150 เมตร กองกำลังสุรนารีจะเก็บกู้ทั้งหมด เนื่องจากอยู่ในแผ่นดินไทย โดยใช้ความระมัดระวัง และคาดว่ายังมีหลงเหลืออยู่อีกเป็นหลักร้อย เป็นชนิดเดียวตามที่ปรากฏเป็นข่าว
ขณะนี้ 2 กรณีต้องดำเนินการคือรายงานไปถึงศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก และกองทัพบกจะนำเสนอรัฐบาลให้กระทรวงต่างประเทศ ยื่นเรื่องไปที่ยูเอ็น เรื่องอนุสัญญาออตตาวา ยืนยันว่าคู่กรณีเป็นคนวางชัดเจน
ส่วนการตอบโต้เป็นหน้าที่ของกองทัพภาคที่ 2 ที่จะดำเนินการต่อไป และเป็นเรื่องการทางทหาร ไม่สามารถบอกรายละเอียดได้ พร้อมย้ำว่าไม่ต้องรอคำสั่งจากรัฐบาล ถือเป็นยุทธวิธี กองทัพภาคที่ 2 ดำเนินการตอบโต้ได้เลย
พล.ท.บุญสิน ยังกล่าวถึง กรณีกัมพูชาตั้งข้อสังเกตว่า กับระเบิดถูกวางในพื้นที่ของประเทศไทย อาจเป็นไทยที่เป็นคนวางหรือไม่นั้น ในความเป็นจริงโดยการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมเป็นไปไม่ได้ การวางกับระเบิดหน้าแนว ผู้ที่วางจะต้องผ่านทหารฝ่ายเดียวกันก็คือทหารไทย และต้องได้รับการอนุมัติ ผู้บังคับหน่วยทหารของฝ่ายไทยเท่านั้นที่จะไปหน้าแนวได้
ดังนั้น ต้องวางมาจากด้านฝั่งตรงข้าม ส่วนที่กัมพูชาปฏิเสธถือเป็นคำพูดที่เขาสามารถชี้แจงได้ เขาต้องปฏิเสธอยู่แล้ว และการวางกับระเบิดเกิดในห้วงก่อนปรับกำลังช่องบก วันที่ 28 พ.ค.ที่ผ่านมา ยืนยันว่ากับระเบิดที่พบไม่มีใช้ในกองทัพไทย
ส่วนที่กัมพูชาอ้างไทยเป็นฝ่ายวางกับระเบิดนั้น คงไม่มีหน่วยทหาร ผู้บังคับหน่วยไหน มาวางระเบิดใส่ลูกน้องตัวเอง คงไม่มี ถ้ามีคงจะเลวร้ายมาก และรับไม่ได้อยู่แล้ว เรามองว่าเป็นไปไม่ได้ เลวร้าย ชั่วร้ายมาก ซึ่งการฟ้องยูเอ็นเป็นการกดดันในเวทีโลก พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ของแผ่นดินไทยที่ฝ่ายตรงข้ามมาวางระเบิดตามที่ผู้นำของกัมพูชาระบุมาว่า ระเบิดนั้นวางในประเทศไทย ซึ่งชัดเจนว่ามีการแทรกซึมเข้ามาวางกับระเบิดในช่วงที่เราถอนกำลังลาดตระเวน เราสามารถตอบโต้ตามขอบเขตความเหมาะสม และเด็ดขาดต่อไป
พล.ท.บุญสิน กล่าวพร้อมย้ำว่า ยังไม่ถึงขั้นต้องอพยพประชาชน แต่เราจะดำเนินการเก็บกู้ระเบิดตามแนวชายแดนให้หมด และทำถนนให้ครอบคลุม พร้อมกำชับให้ทหารช่างระมัดระวังมากขึ้น และไม่คาดคิดว่าเขาจะทำผิดอนุสัญญาออตตาวาที่มีต่อกัน เดิมเราต้องระมัดระวังระเบิดเก่าอยู่แล้ว แต่ส่วนใหญ่เสื่อมสภาพหมดแล้ว
เมื่อถามว่า ได้ประเมินหรือไม่ฝ่ายตรงข้ามจะเล่นรุนแรงและสกปรก พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า ไม่คาดคิดเพราะสองประเทศเป็นคู่อนุสัญญาออตตาวา ไม่ให้ใช้ระเบิดสังหารบุคคลร่วมกัน ถือเป็นเรื่องใหม่ที่เราต้องเฝ้าระวัง และต้องระวังลูกน้องเราด้วย
สำหรับการล้อมพื้นที่ที่มีปัญหาว่าต้องเห็นชอบทั้งสองประเทศ เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องคุยกัน หากไม่เห็นชอบร่วมกันก็จะประท้วงกันไป การล้อมรั้วจุดใดจุดหนึ่งในขณะที่ประเทศคู่กรณีไม่เห็นชอบด้วยจะเป็นปัญหา ล้อมได้แต่ต้องมีการปะทะกันแน่นอน
ส่วนจะนำเหตุการณ์เหยียบกับระเบิดมาเป็นเงื่อนไขล้อมรั้วได้หรือไม่ พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า ก็ถือเป็นหนึ่งใน 4 พื้นที่ กัมพูชาไม่ยอมรับอยู่แล้ว ช่องบกเขาก็ไม่ยอมรับ เช่นเดียวกับ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ปราสาทตาเมือนโต๊ด หากทำอะไรต้องเตรียมพร้อม ซึ่งเป็นปัญหาที่ประชาชนยังไม่ทราบ หากสร้างรั้วทำได้ แต่ต้องใช้กำลังหากอีกฝ่ายไม่เห็นด้วย เพราะเขาไม่ยอมรับอธิปไตยซึ่งกันและกัน
เมื่อถามว่า หลายครั้งที่กัมพูชาละเมิดข้อสนธิสัญญา เพราะเหตุใดเราไม่ตอบโต้กลับ พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า จะเกิดการปะทะกันด้วยอาวุธ และมีผลกระทบทุกภาคส่วน บางครั้งบางโอกาส ถ้าจำเป็นก็หลีกเลี่ยงไม่ได้เช่นกัน ต้องรอดูสถานการณ์ เนื่องจากบางอย่างต้องดูว่าประเทศกัมพูชามีอะไรบ้าง และเราดำเนินการอย่างไรต่อไป
พล.ท.บุญสิน กล่าวถึงกรณีทหารกัมพูชาใส่ชุดนอกเครื่องแบบเข้ามาในปราสาทตาเมือนธม หวังเพิ่มปริมาณคนกัมพูชาเข้ามาปราสาทเมือนธม ก็ดูไม่เหมาะสม ได้แจ้งให้ทาง ผบ.กองกำลังสุรนารี ได้ไปคุยกับ นำพล.ต.เนี๊ยะ วงษ์ ผบ.พลน้อย.ร.42 ทุกอย่างให้เป็นไปตามธรรมชาติ ไม่เช่นนั้นก็จะหนักไปเรื่อย ดังนั้นต้องเด็ดขาด พร้อมยืนยันว่า จากนี้ไปจะทำให้ดีที่สุด และให้จบในยุคของตน เรื่องกับระเบิด ทางกัมพูชาไม่ยอมรับอยู่แล้ว แต่เราก็ต้องแก้ปัญหาต่อไป เพื่อศักดิ์ศรีของประเทศ และของลูกน้องเราด้วย
…
อย่างไรก็ตาม อยากฝากถึงประชาชนคนไทยทุกคน ขณะนี้กองทัพไทย โดยกองทัพภาคที่ 2 และรัฐบาล โดยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม พยายามบริหารประเทศชาติบ้านเมืองที่เกิดขึ้นในขณะนี้ตลอดแนวชายแดน เราจะพยายามทำให้คลี่คลายโดยเร็ว ขอให้ประชาชนอดทน
ในส่วนของกองทัพภาคที่ 2 จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ในปัจจุบันนี้สถานการณ์ตามแนวชายแดน หลังจากที่มีการปรับกำลังก็ไม่มีการรุกล้ำอธิปไตย แม้มีเหตุเหยียบกับระเบิด เราก็กำลังแก้ไขปัญหาให้ชัดเจนต่อไป โดยกองทัพบก กระทรวงต่างประเทศจะดำเนินการต่อไป ในส่วนของทางการทหารจะตอบโต้ในส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการปกป้องอธิปไตย.