คุณหญิงสุดารัตน์ ซัดรัฐบาลไร้มาตรการเยียวยา แก้หนี้ครัวเรือน หนี้นอกระบบ ซ้ำเจอ “ภาษีทรัมป์” แนะแบ่งเงิน 50,000 ล้านบาทจากงบประมาณทำดิจิทัลวอลเล็ต ตั้ง “กองทุนเครดิตประชาชน” อัตราดอกเบี้ยต่ำที่ 1% ต่อเดือน

วันที่ 19 ก.ค. 2568 ที่ตลาดนัดจตุจักร กทม. คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) กล่าวถึงปัญหาเศรษฐกิจสภาพปากท้องค่าครองชีพสูงขึ้นว่า ปัจจุบันเศรษฐกิจย่ำแย่ รายรับหาไม่พอรายจ่าย หนี้ครัวเรือนของคนไทย และหนี้นอกระบบพุ่งสูงขึ้นมาก เคยพบว่ามีการเก็บดอกเบี้ยสูงถึง 240% ต่อปี แต่รัฐบาลยังไม่มีมาตรการออกมาเยียวยา แก้ไขปัญหาปากท้องค่าครองชีพของพี่น้องประชาชนที่แพงขึ้น ทุกอย่างสามารถจับต้องได้อย่างเป็นรูปธรรมจากราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่พุ่งสูงขึ้น ตนมีข้อเสนอคือ ให้แบ่งเงิน 50,000 ล้านบาทจากงบประมาณที่จะทำดิจิทัลวอลเล็ต ให้มาตั้ง ‘กองทุนเครดิตประชาชน’ เพื่อให้พี่น้องประชาชนคนไทยสามารถกู้ได้ในอัตราดอกเบี้ยต่ำที่ 1% ต่อเดือน เพื่อช่วยเหลือประชาชนคนตัวเล็กให้เข้าถึงแหล่งทุน ไม่ต้องไปกู้ยืมเงินนอกระบบที่คิดดอกเบี้ยสูง หรือดอกลอย แต่รัฐบาลไม่สนใจ ยิ่งทำให้ชาวบ้านต้องกู้เงินนอกระบบเพิ่มขึ้น สภาพหนี้สินยิ่งเพิ่มขึ้นตามตัว

“ยิ่งหลังจากนี้ ยิ่งน่าเป็นกังวลมากขึ้น เมื่อการเจรจาต่อรองการนำเข้าสินค้าส่งออกไปสหรัฐอเมริกาจะถูกเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มอีก 36% โดยเฉพาะหมวดสินค้าเกษตรที่อาจกระทบต่อเกษตรกรไทยและ SMEs ไทย เช่น การนำเข้าผลิตภัณฑ์เนื้อหมูต่าง ๆ จากสหรัฐฯ ในราคาถูกที่กระทบทำให้หมูไทยราคาแพงกว่า และต้องเผชิญกับการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม รวมทั้งความเสี่ยงด้านสุขภาพจากสารเร่งเนื้อแดงของหมูนำเข้า จึงเรียกร้องให้รัฐบาลต้องเจรจาอย่างรอบคอบเพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศไทยและเร่งหาตลาดส่งออกสินค้าไทยใหม่ ๆ รองรับเพิ่มมากยิ่งขึ้น” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว