เชียงใหม่ – ตำรวจภาค 5 แถลงจับชาวต่างชาติ ลักลอบขนช่อดอกกัญชา กว่า 100 กิโลกรัม ส่งปลายทางประเทศอังกฤษ พบอาศัยช่องโหว่กฎหมายไทย ยอมให้ศุลกากรตรวจริบของกลางไม่ต้องถูกดำเนินคดีไม่ต้องเสียค่าปรับ ปล่อยตัวไปในที่สุด
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 5 มีนาคม 2568 พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย รอง ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.วรพงศ์ คำลือ ผบก.สส.ภ.5, พล.ต.ต.ยุทธนา แก่นจันทร์ ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ และเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนภาค 5 เจ้าหน้าที่ศุลกากรภาคที่ 3 ศูนย์ปราบปรามยาเสพติดภาคเหนือ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ การท่าอากาศยานเชียงใหม่ ร่วมกันแถลงข่าวจับชาวต่างชาติลอบขนกัญชากว่า 100 กิโลกรัม ส่งประเทศอังกฤษ
โดยคดีแรกเมื่อเย็นวันที่ 2 มี.ค. 68 จับกุมชายชาวมาเลเซีย อายุ 23 ปี พยายามลักลอบขนช่อดอกกัญชา ออกนอกประเทศ น้ำหนัก 22.5 กิโลกรัม โดยจะเดินทางจากเชียงใหม่ ไปดูไบ และต่อเครื่องไปกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ

รายที่สองวันที่ 4 มี.ค. เวลา 09.40 น. จับกุมหญิงชาวอังกฤษ อายุ 19 ปี เป็นนักศึกษา พยายามลักลอบขนช่อดอกกัญชา ออกนอกประเทศ น้ำหนัก 34.8 กิโลกรัม โดยจะเดินทางจากเชียงใหม่ ไปฮ่องกง แล้วต่อเครื่องไปลอนดอน
…
รายที่สามเมื่อเย็นวันที่ 4 มี.ค. จับกุมชายและหญิงชาวมาเลเซีย อายุ 35 ปี ทั้งคู่พยายามลักลอบขนช่อดอกกัญชา ออกนอกประเทศ น้ำหนัก 45.4 กิโลกรัม โดยจะเดินทางไปสิงคโปร์ และต่อเครื่องไปลอนดอน

ล่าสุดวันนี้ (5 มี.ค. 68) ทางเจ้าหน้าที่ศุลกากร เชียงใหม่ สามารถสกัดจับการลักลอบขนดอกกัญชาได้อีก 20 กิโลกรัม ที่สนามบินเชียงใหม่ ผู้ต้องหาเป็นชาวเยอรมัน ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ริบของกลางและปล่อยตัวผู้ต้องหาไป
พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5, เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาทั้งหมดนั้นอาศัยช่องโหว่ของกฎหมายศุลกากรไทย หากยอมให้ริบของกลาง ก็จะไม่ต้องรับโทษ โดยรู้ว่ากฎหมายไทยนั้น การครอบครองกัญชาและการขนส่งภายในประเทศไม่ผิดกฎหมาย และประเทศอังกฤษ การถือครองกัญชาก็ไม่เข้าข่ายผิดกฎหมายยาเสพติด จึงได้ทำการขนส่งผ่านไปยังประเทศอังกฤษ ทั้งที่สนามบินภูเก็ต, กรุงเทพ และที่เชียงใหม่ ซึ่งทางสนามบินภูเก็ตได้สกัดจับริบของกลางไว้จำนวนมาก กลุ่มผู้ลักลอบขนจึงได้เปลี่ยนสนามบินที่สุวรรณภูมิ ก็ถูกสกัดอีก จึงเปลี่ยนเส้นทางมาขนที่เชียงใหม่ โดยอาศัยว่า หากยินยอมให้ริบของกลาง ก็ไม่ต้องรับโทษ

ที่เชียงใหม่ ถือว่าเป็นครั้งแรกที่มีการสกัดดอกกัญชาจำนวนมาก เป้าหมายปลายทางของผู้ลักลอบขนนั้นคือ ประเทศอังกฤษ การลักลอบขนดอกกัญชาครั้งนี้ มีผู้ต้องหาชาวมาเลเซียคนเดียวที่ถูกจับปรับ เพราะปฏิเสธอ้างว่ารับจ้างขน ไม่ใช่ของตนเอง ทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้ว กัญชาดังกล่าวเป็นของผู้ต้องหา จึงดำเนินคดีทางกฎหมาย สุดท้ายก็ยอมรับว่าช่อดอกกัญชาเป็นของตนเองและยอมให้ริบของกลาง เจ้าหน้าที่จึงได้ปล่อยตัวไป
อย่างไรก็ตามทางภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทย จะได้ทำการหารือเพื่อหามาตรการเพิ่มโทษของการลักลอบขนช่อดอกกัญชาและกัญชาออกนอกประเทศให้มีบทลงโทษที่หนักกว่านี้ต่อไป