รพ.กำแพงเพชร แจงขั้นตอนการรักษาเด็ก 17 อาการก่อนวินิจฉัยเป็นไมเกรน ให้กลับบ้านได้ ก่อนกลับมาอีกที เส้นเลือดในสมองแตก
วันที่ 7 มี.ค. 68 ที่ รพ.กำแพงเพชร นายแพทย์ปริญญา นาคปุณบุตร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกำแพงเพชร, พญ.อังคณา อุปพงษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกำแพงเพชร พร้อม นพ.สมเพ็ง โชคเฉลิมวงศ์ รองผู้อำนวยการด้านพัฒนาระบบบริการและสนับสนุนบริการสุขภาพ, นพ.กรวิทย์ วังสิริกุล ศัลยแพทย์ระบบประสาทและสมอง และ พว.เพ็ญกมล กุลสุ รองผู้อำนวยการด้านพยาบาล ได้ร่วมกันแถลงข่าว จากกรณี นายภาสกร ดวงจิต ผู้เป็นพ่อของนายโภคิน ดวงจิต ได้นำหลักฐานร้องเรียนนายรณรงค์ แก้วเพชร ประธานมูลนิธิฯ หลังลูกชายปวดหัวรุนแรง แล้วพาไป รพ. บอกเป็นไมเกรน ให้กลับไปดูอาการที่บ้าน สุดท้ายเส้นเลือดในสมองแตก ต้องผ่าตัด และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 5 มีนาคม ที่ผ่านมา
นพ.ปริญญา นาคปุณบุตร กล่าวว่า ก่อนอื่นต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของ นายโภคิน ดวงจิต ผู้เสียชีวิต แต่จากกรณีที่บิดาได้ร้องเรียนที่มูลนิธิแห่งหนึ่งนั้น เบื้องต้นเองได้รับทราบข่าว และทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมกับรายงานให้กับผู้บังคับบัญชาทราบตามกระบวนการขั้นตอนแล้ว ซึ่งวันนี้จึงได้นำแพทย์ที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการรักษานายโภคิน มาร่วมแถลงข่าว เพื่อสังคมได้รับทราบข้อเท็จจริง ถึงกระบวนการขั้นตอนการรักษาเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมของทุกฝ่าย
พญ.อังคณา อุปพงษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกำแพงเพชร กล่าวว่า กระบวนการขั้นตอนการรักษานั้น ตนขอสรุปสถานการณ์โดยเริ่มตั้งแต่เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 04.24 น. นายโภคิน ดวงจิต อายุ 17 ปี (ผู้ป่วย) มาตรวจที่ห้องฉุกเฉินด้วยอาการปวดศีรษะร้าวมาที่กระบอกตา คลื่นไส้ อาเจียน 2 ครั้ง ตาพร่ามัว เห็นแสงแล้วปวดมากขึ้น ไม่มีไข้ 2 ชั่วโมง ก่อนมา รพ. ตรวจพบอุณหภูมิ 36.6 องศาเซลเซียส ชีพจร 52 ครั้ง/นาที หายใจ 20 ครั้ง/นาที ความดันโลหิต 138/77 มิลลิเมตรปรอท ตรวจร่างกายพบรูม่านตาขนาด 2 มิลลิเมตร เท่ากันทั้งสองข้าง ไม่มีแขนขาอ่อนแรง ขยับได้ปกติ ตรวจระบบประสาทและสมองไม่พบความผิดปกติ จึงวินิจฉัยเบื้องต้นว่า ปวดศีรษะไมเกรน
…
ได้รับการรักษาโดยการฉีดยาแก้ปวดเข้าทางหลอดเลือดดำ และให้สังเกตอาการ ระหว่างนั้นผู้ป่วยทุเลาปวดศีรษะ นอนหลับพักได้ดี ต่อมา เมื่อเวลา 08.39 น.ของวันเดียวกัน พยาบาลตรวจเยี่ยมอาการ วัดสัญญาณชีพ ความดันโลหิต 130/75 มิลลิเมตรปรอท ชีพจร 61 ครั้ง/นาที หายใจ 20 ครั้ง/นาที ความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด 99 เปอร์เซ็นต์ รู้ตัวดี ตอบสนองรู้เรื่อง ทุเลาปวดศีรษะ จนเวลา 09.01 น. แพทย์ตรวจอาการผู้ป่วยบอกว่า แสงจ้ากระตุ้นปวดตา เบาปวดศีรษะแล้ว และเวลา 09.20 น. ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจซ้ำ อัตราการเต้นหัวใจ 52 ครั้ง/นาที ผู้ป่วยปฏิเสธสารเสพติด เวลา 09.33 น. แพทย์ตรวจเยี่ยมอาการผู้ป่วยและอนุญาตให้กลับบ้านได้
พยาบาลตรวจเยี่ยมอาการ วัดสัญญาณชีพ ความดันโลหิต 148/77 มิลลิเมตรปรอท ชีพจร 51 ครั้ง/นาที อัตราการหายใจ 20 ครั้ง/นาที ความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด 98 เปอร์เซ็นต์ พูดคุยถามตอบรู้เรื่อง น.ส.สิริวิมล รักชาติ มารดาของนายโภคิน ได้สอบถามอาการและสาเหตุความเจ็บป่วยของบุตร พยาบาลรายงานแพทย์ แพทย์อธิบายเกี่ยวกับอาการ การวินิจฉัยและการปฏิบัติตัว และอาการผิดปกติที่ควรกลับมาพบแพทย์ กับ น.ส.สิริวิมล มารดา ได้รับทราบและเข้าใจจึงรับยาและนำผู้ป่วยกลับบ้านโดยตลอด
จนกระทั่ง เวลา 20.07 น. ผู้ป่วยมาตรวจซ้ำด้วยเรื่องปวดศีรษะบริเวณขมับมาก กินยาแก้ปวดไม่ทุเลา ไม่มีหน้ามืด หรือใจสั่น แรกรับที่ห้องอุบัติเหตุและฉุกเฉิน ตรวจสัญญาณชีพ อุณหภูมิร่างกาย 37.8 องศาเซลเซียส ชีพจร 60 ครั้ง/นาที หายใจ 20 ครั้ง/นาที ความดันโลหิต 134/88 มิลลิเมตรปรอท ความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด 99 เปอร์เซ็นต์ ตรวจร่างกายพบรูม่านตาขนาด 2 มิลลิเมตรเท่ากันทั้งสองข้าง รู้สึกตัว ถามตอบช้า เวลา 21.05 น. มีอาการมือเกร็ง 2 ข้าง พยาบาลรายงานแพทย์ ฉีดยากันชักเข้าทางหลอดเลือดดำ คุณหมอได้ซักประวัติมารดาเพิ่มเติม แจ้งไม่เคยชักเกร็งมาก่อน ไม่มีไข้ ปฏิเสธการเกิดอุบัติเหตุ ส่งเอกซเรย์สมองพบเลือดออกในสมองด้านขวาขนาด 7.8x3x4.6 เซนติเมตร จึงได้ปรึกษาศัลยแพทย์ผ่าตัดสมอง ทำการผ่าตัดสมองทันทีด้วยระบบช่องทางด่วน เพื่อเปิดกะโหลกศีรษะนำเลือดที่คั่งในสมองออก ใช้เวลาในการผ่าตัด เวลา 23.30-01.10 น.
หลังผ่าตัดย้ายผู้ป่วยเข้าห้องผู้ป่วยหนักศัลยกรรม (ICU) กระทั่งวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2568 หลังผ่าตัด ผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจ ตรวจอาการทางสมอง เรียกลืมตา ทำตามคำสั่งได้ แขน-ขาขวาขยับได้ แขน-ขาซ้ายอ่อนแรง ต่อมาเวลา 11.30 น. มีปัญหาความดันโลหิตสูงขึ้น ความดันโลหิตค่าบน 170-190 มิลลิเมตรปรอท ชีพจรเต้นเร็ว 170-180 ครั้ง/นาที รูม่านตาข้างขวา 2 มิลลิเมตร ข้างซ้าย 5 มิลลิเมตร ตอบสนองต่อแสงช้าลง ทั้ง 2 ข้าง ทำการเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมองพบเลือดออกในสมองซ้ำบริเวณสมองด้านขวาและแกนสมอง ทำการเจาะเลือดพบความเข้มข้นของเม็ดเลือดแดง 36.9%, เม็ดเลือดขาวสูง 29,300 /uL, และเกร็ดเลือดต่ำ 58,000 /uL ตรวจร่างกายระบบประสาท ไม่ตอบสนองต่อความเจ็บปวด แขน-ขาไม่ขยับ รูม่านตา 6 มิลลิเมตร ไม่ตอบสนองต่อแสง ทั้ง 2 ข้าง
ศัลยแพทย์ระบบประสาทและสมอง ผู้ทำการผ่าตัดและอายุรแพทย์ ร่วมกันพิจารณาว่าคนไข้มีปัญหาเกล็ดเลือดต่ำผิดปกติจากโรคเลือดผิดปกติ เข้าข่าย Thrombotic thrombocytopenic purpura (TTP) ซึ่งอาจจะเป็นหนึ่งในล้านที่เกิดขึ้น ร่วมกับผู้ป่วยมีภาวะเลือดออกบริเวณแกนสมอง การผ่าตัดซ้ำอาจทำให้เกิดความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตในห้องผ่าตัดมากขึ้น จึงได้ทำการรักษาโดยการให้เลือด พลาสม่า เกร็ดเลือด และฉีดยาช่วยให้เลือดหยุด และรักษาต่อโดยการใช้เครื่องช่วยหายใจ ให้ยากันชัก ให้ยาลดความดันในศีรษะ และให้ยาลดความดันทางหลอดเลือดดำ
ปรึกษาอายุรแพทย์โลหิตวิทยา รพ.สวรรค์ประชารักษ์ อาการเข้าได้กับโรคเกล็ดเลือดผิดปกติ แนวทางการรักษาต้องให้ Steroid หรือ ยากดภูมิชนิดฉีด แต่ผู้ป่วยเริ่มมีภาวะติดเชื้อในปอดด้านขวา เริ่มมีภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด ทำให้มีความเสี่ยงต่อการถูกกดภูมิต้านทานของร่างกาย จึงได้แนะนำให้ทำการรักษาภาวะติดเชื้อโดยการให้ยาปฏิชีวนะชนิดฉีด คุยพยากรณ์โรคและทำความเข้าใจกับมารดาผู้เฝ้าลูกชายให้เข้าใจมาโดยตลอด
…
หลังจากนั้นตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ – 5 มีนาคม 2568 รักษาต่อเนื่องโดยการใช้เครื่องช่วยหายใจ ให้ยากันชัก ยาลดความดันในศีรษะ ยาปฏิชีวนะ ตรวจร่างกายระบบประสาท ยังเหมือนเดิม ไม่ตอบสนองต่อความเจ็บปวด แขน-ขาไม่ขยับ ทำการเจาะเลือดพบ ความเข้มข้นของเม็ดเลือดแดง 35.4%, เม็ดเลือดขาวสูง 29,400 /uL และเกร็ดเลือดต่ำ 51,000 /uL มีภาวะความดันโลหิตต่ำรุนแรง ให้การรักษาโดยยากระตุ้นความดัน 2 ชนิดร่วมกัน มีภาวะออกซิเจนในเลือดต่ำ ทำการรักษาโดยการปรับเครื่องช่วยหายใจ
จากนั้นทางคุณพ่อมีความประสงค์อยากขอไปรักษา รพ.สวรรค์ประชารักษ์ ติดต่อประสานงาน รพ.สวรรค์ประชารักษ์ อายุรแพทย์โลหิตวิทยาแนะนำว่าอาการผู้ป่วยมีความเสี่ยงสูงมากและมีโอกาสเสียชีวิตระหว่างการส่งต่อได้ จนกระทั่ง วันที่ 5 มีนาคม เวลา 15.05 น. ผู้ป่วยมีภาวะหัวใจหยุดเต้น ทำการช่วยฟื้นคืนชีพ 15.05-15.35 น. ด้วยเครื่อง Auto CPR และให้ยาตามแนวทางการช่วยฟื้นคืนชีพ ผู้ป่วยไม่มีสัญญาณชีพกลับมา และเสียชีวิตเมื่อเวลา 15.35 น.

พญ.อังคณา อุปพงษ์ ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า กรณีมีการร้องเรียนก็สามารถทำได้แต่อยากให้เกิดความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย และข้อเท็จจริง โรงพยาบาลเองยังยึดหลักในการทำงานการเป็นโรงพยาบาลคุณภาพ บริการทันสมัย เป็นที่ไว้วางใจของประชาชน ซึ่งตรงนี้ได้มีการตรวจสอบการทำงานของแพทย์ทุกคนได้ยังยึดหลักในมาตรการและวิชาชีพ และโดยเฉพาะการให้บริการประชาชนที่มาใช้บริการ โดยหลังจากนี้ในส่วนของการเยียวยาก็คงจะให้เป็นไปตามกฎหมายของ พรบ.สาธารณสุขต่อไป
…
ด้าน น.ส.ศิริวิมล รักชาติ อายุ 36 ปี (เบลอหน้าด้วย) แม่ของน้องโภคิน เผยว่า ตนเองไม่ติดใจกับการเสียชีวิตของลูกชายและการรักษาของแพทย์ที่โรงพยาบาล ส่วนเรื่องอดีตสามี ก็ปล่อยเขา ตนไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกัน แต่ในส่วนของกระบวนการในห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล ตนขอตำหนิแพทย์และพยาบาลว่าขอให้ลำดับความสำคัญให้มากกว่านี้ ส่วนกระบวนการหลังผ่าตัดแล้วแพทย์ก็ให้คำแนะนำและดูแลดีตลอด โดยที่ผ่านมาในช่วงจัดงานศพทุกคืนทางโรงพยาบาลและผู้บริหารก็เดินทางมาร่วมงานและเป็นเจ้าภาพ อีกอย่างลูกชายของตนก็ไปสบายแล้ว ไม่อยากคิดอะไรมาก และจะทำการฌาปนกิจศพในวันอาทิตย์ ที่ 9 มี.ค. 68 นี้ ซึ่งตอนมีชีวิตอยู่ ลูกชายเป็นคนที่ชอบเล่นกีฬาและทำกิจกรรมมาก ไม่เคยมีอาการป่วยหนักมาก่อน