เจ้าหน้าที่ดำน้ำในบ่อหาหลักฐานเพิ่ม รอผลตรวจ DNA คลี่ปมกะโหลกปริศนาที่ฉะเชิงเทรา ขณะที่อดีตแฟนหนุ่มชาวโรมาเนียยันไม่เกี่ยว “เมทินี” หายตัว
วันที่ 29 พ.ค. 68 จากกรณีพบกะโหลกศพปริศนา เป็นหญิงสาว ผมสีน้ำตาลแดง ถูกห่อผ้ายัดใส่ถุงดำ ทิ้งไว้ในพงหญ้าข้างทาง ริมบ่อน้ำ พื้นที่ ม.2 ต.แสนภูดาษ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ก่อนที่จะมีน้องนักเรียนคนหนึ่ง ซึ่งไปวิ่งออกกำลังกายและเจอถุงใบนี้กลิ้งออกมา เปิดออกมาเป็นหัวกะโหลกมนุษย์ ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการนำไปตรวจสอบดีเอ็นเอเพื่อคลี่คลายคดี
ขณะที่ในพื้นที่พัทยา มีการแจ้งความคนหาย ทราบชื่อคือ น.ส.เมทินี หรือเมย์ จุลมันทนา อายุ 43 ปี สาว จ.สงขลา ได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย จนลูกพี่ลูกน้องต้องไปแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองพัทยา
ความคืบหน้าล่าสุด ทีมข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจบริเวณบ่อน้ำที่พบกะโหลกของหญิงสาว พบว่าสามารถเข้าพื้นที่ได้ 2 ทาง ทางแรกจากหมู่บ้าน สามารถเข้าได้ทั้งรถเล็กและรถใหญ่ อีกเส้นทางคือทางเชื่อมต่อจากทางเข้าสนามกอล์ฟ แต่สามารถเข้าได้เพียงรถจักรยานยนต์เท่านั้น

…
จากการสอบถามคุณลุงวัย 60 ปี ซึ่งเป็นคนในพื้นที่เล่าว่า ถุงดำที่ใส่กะโหลกที่พบนั้น เมื่อวันที่ 17 พ.ค. ที่ผ่านมา ตัวเองได้วางข่ายดักปลาในบ่อน้ำก่อนจะไปพบวัตถุบางอย่าง เมื่อนำขึ้นมาพบว่าเป็นกล่องลำโพง 2 กล่องประกบกัน และมีเชือกมัดอยู่ จึงตัดเชือกออกเพื่อดูว่าในกล่องลำโพงเป็นอะไร ปรากฏว่ามีถุงดำ ภายในบรรจุสิ่งของบางอย่าง แต่เพราะมีกลิ่นเหม็นมา ทำให้ไม่สนใจและโยนทิ้งไปบริเวณบ่อน้ำ ส่วนลำโพงก็นำไปขายที่ร้านขายของแล้ว ซึ่งตำรวจกำลังติดตามกล่องลำโพงกลับมา
ต่อมาช่วงบ่ายวันนี้ พล.ต.ต.เกรียงไกร บุญซ้อน ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา ประสานชุดประดาน้ำหน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทราลงค้นหาหลักฐานเพิ่มเติมในจุดที่พบกะโหลกปริศนา โดยนำเครื่องสแกนมาตรวจความลึกและหาวัตถุต้องสงสัย แต่เพราะความลึกไม่เสมอกันทำให้สแกนได้ลำบาก จึงนำชุดประดาน้ำ 4 นายลงค้นหาแต่ยังไม่พบหลักฐานเพิ่มเติม
อีกด้าน ทีมข่าวได้รับการประสานจาก น.ส.นี (นามสมมติ) อายุ 44 ปี เพื่อนของ น.ส.เมย์ ซึ่ง น.ส.เมย์ ติดต่อขอมาทำงานด้วย ย่านบัวขาว พัทยากลาง ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เล่าว่า นายเปตรู ชาวโรมาเนีย อดีตแฟนของ น.ส.เมย์ ได้ติดต่อมาหาตนเอง พร้อมแสดงความบริสุทธิ์ใจว่า ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของ น.ส.เมย์ โดยนายเปตรูกลับโรมาเนียไปตั้งแต่วันที่ 14 เม.ย. 2568
ซึ่งเมื่อวันที่ 16 พ.ค. 68 น.ส.เมย์ ยังส่งข้อความไปหา นายเปตรู เพื่อถามว่าที่โทรหามีอะไรจะคุยหรือ ซึ่งฝ่ายชายพยายามง้อบอกว่ารักมาก อยากให้ยกโทษให้ โดยตอนนั้นนายเปตรูอ้างว่าอยู่ที่โรมาเนียแล้ว ยอมรับว่าเคยคบกับ น.ส.เมย์ แต่สุดท้ายต้องเลิกกัน ก่อนที่จะเดินทางกลับประเทศ

ขณะที่ น.ส.โม (นามสมมติ) อดีตนายจ้างของ น.ส.เมย์ เผยว่า น.ส.เมย์ มาทำงานที่ร้านเมื่อวันที่ 10 ม.ค. 68 โดยมาสมัครงานเป็นพนักงานเงินเดือน และพักอาศัยอยู่ที่หอพักของทางร้าน ทำงานได้เพียง 2 วัน น.ส.เมย์ ก็พบรักกับนายเปตรู จากนั้นทั้งคู่ก็ย้ายไปอยู่ด้วยกัน จนวันที่ 28 ม.ค. ก็มาขอลาออก ก่อนจะขอกลับเข้ามาทำงานอีกครั้ง ช่วงต้นเดือน ก.พ. แต่ขอมาทำแบบพาร์ทไทม์ ซึ่งทางร้านก็ตกลง
แต่ระหว่างที่ทำงานนั้น นายเปตรูก็จะมานั่งเฝ้า น.ส.เมย์ เป็นประจำ และมีพฤติกรรมหึงหวง บางครั้งก็ทะเลาะกัน บ่อยครั้งเข้า ทางร้านก็ไม่ไหว จึงขอให้ น.ส.เมย์ ลาออก ช่วงต้นเดือน มี.ค. จากนั้นก็ไม่เคยมีใครเห็น น.ส.เมย์ อีกเลย
ซึ่งหลังจากที่ น.ส.เมย์ หายตัวไป ตนและพนักงานคนอื่นๆ ยังเคยคุยกันว่า ในช่วงที่นายเปตรูมีปัญหากับ น.ส.เมย์ จะมีผู้ชายผอมสูง ผิวคล้ำ ไว้หนวด ลักษณะเป็นวินจักรยานยนต์รับจ้างมาคอยรับ คอยส่ง เป็นประจำ โดย น.ส.เมย์ เคยบอกกับเพื่อนร่วมงานว่า แค่ควงประชดนายเปตรู เพราะไม่พอใจที่กลับขึ้นห้องพักไปแล้วไปเจอนายเปตรูนอนอยู่กับผู้หญิงคนอื่น

…
ด้านคดี ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองพัทยา ได้ลงพื้นที่หาข่าว เบื้องต้นพบความเคลื่อนไหวของ น.ส.เมย์ ช่วงประมาณวันที่ 17 พ.ค. ยังมีการโอนเงิน และเติมเงินในโทรศัพท์มือถือ แต่ในกรณีนี้ มีการทำงานร่วมกันของตำรวจสืบสวนภาค 2 และตำรวจ ภ.จว.ฉะเชิงเทรา จึงยังไม่สามารถให้ข้อมูลเชิงลึกกับผู้สื่อข่าวได้
ขณะที่แม่ของ น.ส.เมย์ วิงวอนว่า หากลูกสาวยังมีชีวิตอยู่ และเห็นข่าว ก็อยากให้ติดต่อกลับมาหาครอบครัวหน่อย เนื่องจากเป็นห่วงมาก
อย่างไรก็ตาม ต้องรอการตรวจดีเอ็นเอกะโหลกปริศนาที่พบในฉะเชิงเทรา ว่าจะเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของ น.ส.เมย์ หรือไม่ด้วย