ที่ประชุมวุฒิสภา ลงมติรับหลักการร่าง พ.ร.บ.สุราชุมชน ด้วยคะแนน 180 เสียง พร้อมตั้ง กมธ.วิสามัญ 21 คน พิจารณาในวาระ 2

วันที่ 27 มกราคม 2568 การประชุมวุฒิสภา เข้าสู่การลงมติร่างพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. หรือ ร่าง พ.ร.บ.สุราชุมชน ในวาระแรก หรือขั้นรับหลักการ ซึ่งสภาผู้แทนราษฎรลงมติเห็นชอบแล้ว โดยเปิดโอกาสให้สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ร่วมกันอภิปรายอย่างกว้างขวาง โดยมีการแสดงความเป็นห่วงถึงเรื่องผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น และบางส่วนก็เห็นด้วยกับร่างกฎหมายดังกล่าว พร้อมทั้งให้ข้อเสนอแนะ

ขณะที่ฝ่ายคณะรัฐมนตรีนั้นมี นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะกำกับดูแลกรมสรรพสามิต ชี้แจงในช่วงหนึ่งว่า ขอบคุณข้อเสนอแนะที่จะทำให้กรมสรรพสามิตทำงานให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งร่างแก้ไข พ.ร.บ.ฉบับนี้มี 3 หลักง่ายๆ คือ

1. เป็นการสนับสนุนรายย่อย สหกรณ์ เกษตรกร ให้ใช้วัตถุดิบในประเทศในการผลิตสุรา ไม่ว่าจะเป็นสุราสี หรือไม่มีสีก็ตาม

2. ร่างกฎหมายฉบับนี้มีการการันตีว่าต่อจากนี้ต้องไม่มีการเลือกปฏิบัติ ไม่มีการผูกขาด สร้างภาระเกินความจำเป็น และต้องสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อย

3. ต้องคำนึงถึงมาตรฐานในการผลิตสุรา

…

“ในมุมมองของกรมสรรพสามิต มุมมองของรัฐบาล เห็นด้วยกับร่างแก้ไข พ.ร.บ.ฉบับนี้ และอยากนำเรียนสมาชิกทุกท่านว่า ในส่วนของกรมสรรพสามิต สิ่งต่างๆ ที่มีการแก้ไข พ.ร.บ.ฉบับนี้ เป็นสิ่งที่กรมสรรพสามิตให้ความสำคัญตลอดระยะเวลาช่วงที่ผ่านมา อย่างน้อยก็ในยุครัฐบาลท่านเศรษฐา (ทวีสิน) ต่อเนื่องมาถึงรัฐบาลปัจจุบัน ที่เราให้ความสำคัญกับผู้ผลิตรายย่อย SME เกษตรกร กลุ่มวิสาหกิจชุมชนต่างๆ ที่จะต้องมีโอกาสเทียบเท่ารายใหญ่”

อีกมิติที่ต้องดูแลคือเรื่องของคุณภาพ สุราเป็นสินค้าไม่กี่ชนิดที่มนุษย์บริโภคเข้าไปแล้วไม่ได้มีหน่วยงานที่กำกับดูแลเรื่องคุณภาพ เรื่องอันตราย นอกเหนือจากกรมสรรพสามิต จึงถือเป็นหน้าที่ ความรับผิดชอบของเราที่มีต่อประชาชน เราต้องรักษาสมดุลระหว่างการสนับสนุนและการดูเรื่องคุณภาพ ที่ผ่านมาอาจจะมองว่าเข้มงวดเกินไป เน้นไปที่เรื่องการเก็บภาษี ซึ่งตนให้นโยบายไปว่าการสมดุลเรื่องการสนับสนุนเป็นสิ่งสำคัญ ส่วนเรื่องความล่าช้าต่างๆ ต้องทำให้ง่ายขึ้น แต่ต้องคงเรื่องคุณภาพไว้ ซึ่งจะสร้างชื่อเสียงกับประเทศของเรา อีกทั้งจะมีการแก้ไขกฎกระทรวงให้สะดวกและสร้างโอกาสให้รายย่อยมากขึ้น และจะนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป

จากนั้นเวลา 15.11 น. นายบุญส่ง น้อยโสภณ รองประธานวุฒิสภา คนที่ 2 ซึ่งทำหน้าที่ประธานการประชุม กล่าวปิดรับการอภิปราย โดยเรียกตรวจสอบองค์ประชุมเพื่อลงมติในวาระแรก ผลปรากฏว่า ที่ประชุมลงมติรับร่าง พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ไว้พิจารณา ด้วยคะแนน เห็นด้วย 180 (ลงคะแนนด้วยเสียง 2) ไม่เห็นด้วย 1 งดออกเสียง 4 และที่ประชุมยังมีมติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญจำนวน 21 คน เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ. ในวาระที่สอง กำหนดเวลาแปรญัตติภายใน 7 วันทำการตามข้อบังคับ ข้อ 125