“ภูมิธรรม” ไม่สบายใจ กัมพูชาโผล่ร้องเพลง แสดงสัญลักษณ์บนปราสาทตาเมือนธม ไทยร่อนหนังสือประท้วงแล้ว จ่อคุย กต. ดำเนินการทางการทูต แจงไฟป่าจากซ้อมยิงปืนใหญ่ ไม่ได้เกิดขึ้นตลอด ล่าสุดเหลือแต่กลุ่มควัน
วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2568 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่มีชาวกัมพูชาจำนวนหนึ่งขึ้นมาร้องเพลงปลุกใจบริเวณปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ว่า จริงๆ พื้นที่ตรงนี้อยู่ในประเทศไทย แต่ยังมีเส้นที่ยังแบ่งกันไม่ชัดเจน ก็ยังเป็นเรื่องค้างคาอยู่ ซึ่งเราก็เปิดให้ฝ่ายกัมพูชา ประชาชน ขึ้นไปสักการะสิ่งต่างๆ ได้เป็นปกติ
นายภูมิธรรม ระบุต่อไปว่า แต่การขึ้นไปร้องเพลงหรือแสดงเชิงสัญลักษณ์แบบนี้เราไม่สบายใจ ทางผู้บัญชาการทหารที่เกี่ยวข้องก็ได้ทำเรื่องประท้วงไปแล้ว ซึ่งขณะนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอยู่ที่กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน เดี๋ยวจะประสานโทรศัพท์คุย เพราะทางการทูตก็จะต้องดำเนินการต่อด้วย ที่สำคัญคือ เราไม่ได้คิดว่ามีอะไรที่ขัดแย้งกัน เป็นเรื่องที่ทั้งสองฝ่าย ทั้งระดับประเทศ และระดับผู้ปฏิบัติงานไปมาหาสู่กันดี ไม่มีอะไร ส่วนนี้ก็อาจจะเป็นประชาชนหรือทหารบางส่วนที่ขึ้นไปเที่ยวแล้วก็ไปร้องเพลง แต่เราก็ไม่สบายใจเพราะเป็นสัญลักษณ์ เดี๋ยวจะเหมือนเรื่องเดิม เพราะฉะนั้นเราก็แสดงจุดยืนที่ประท้วงให้เห็นว่ายังมี 2 จุด ที่ยังไม่สามารถอ้างอิงได้

…
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะต้องให้เจ้าหน้าที่ทำความเข้าใจเพิ่มเติมหรือไม่ นายภูมิธรรม ตอบว่า เราก็ทำความเข้าใจอยู่บ้างแล้ว แต่นักท่องเที่ยวบางทีห้ามยืนตรงนี้ ห้ามถ่ายรูป ก็จะถ่ายรูป แต่ว่าเราเท่าทันเขา ก็สามารถจะทำไว้เป็นการป้องกัน ความขัดแย้งไม่ได้มีอะไร
เมื่อถามย้ำว่ากรณีนี้เป็นภรรยาของนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกัมพูชา นายภูมิธรรม ยืนยันว่า “ก็เหมือนกัน ภรรยาผู้ใหญ่ ภรรยารัฐมนตรี ประชาชนเหมือนกัน อยากจะถ่ายรูป อยากจะร้องเพลง ก็ถือว่าเราไม่อยากให้เป็นประเด็นที่ต้องมานั่งก่อให้เกิดความขัดแย้ง สงบสุขไว้ดีกว่า เราก็ทำสัญลักษณ์ของเรา คือเราประท้วง แล้วเราก็มีว่าตรงนี้ไม่ควรจะทำแบบนั้น ถือว่าเจ๊ากันไป ทุกคนก็ต่างแสดงบทบาทของตัวเอง”

ส่วนประเด็นไฟป่าที่ จ.พะเยา และมีการโยงถึงการซ้อมยิงปืนใหญ่นั้น นายภูมิธรรม ระบุว่า สถานที่เหมาะจะซ้อม พื้นที่ดังกล่าวไม่ได้เป็นป่าอะไรหนักหนา เป็นพื้นที่ว่าง พื้นที่รกร้าง ซึ่งช่วงที่เขาจะไปปฏิบัติการซ้อมได้ประสานงานกับหน่วยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องแล้ว ทำแนวกันไฟไว้แล้ว คงไม่ถึง 500 ไร่ อย่างที่เขากล่าวกัน ซึ่งมีการดับไฟเรียบร้อย เพราะทางกองทัพภาคที่ 3 ก็เตรียมอยู่แล้ว ตอนนี้ยังจัดกำลังคนไว้รอเฝ้าดูถ้าเกิดคุกรุ่นขึ้นมาก็จะดับได้ ตอนนี้ไม่มีอะไรแล้ว เป็นกลุ่มควัน
ทางด้านคำถามถึงความเหมาะสมการซ้อมยิงปืนใหญ่ช่วงหน้าร้อน นายภูมิธรรม ระบุว่า ก็ไม่ได้เกิดขึ้นเสมอ คงมีการทบทวน แต่มันอาจจะไม่ใช่ประเด็นที่ต้องกังวลไปตลอด เพราะฉะนั้น การซ้อมรบหรืออะไรก็เป็นวัตรปกติที่ทหารต้องทำอยู่แล้ว แต่อาจจะต้องดูตรงนี้ให้รอบคอบมากขึ้น