หญิงพิการนั่งร้องไห้ บ้านถูกไฟไหม้วอดทั้งหลัง เล่านาทีจะกลับเข้าไปเอาทรัพย์ในกองไฟ แต่โชคดีมีเพื่อนบ้านมาช่วยหิ้วปีกออกมา
เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2568 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า มีเหตุไฟกำลังลุกไหม้บ้าน ที่บ้านนาเจริญ ต.หนองหมี อ.ราศีไศล จ.ศรีสะเกษ พอไปถึง ไฟกำลังลุกไหมบ้าน 2 ชั้น ซึ่งไฟได้ไหม้จากชั้นบนที่เป็นไม้ ลงมายังชั้นล่างที่เป็นปูน
โดยมี นายอระชอน โนนทอง อายุ 59 ปี และ นางหนูเพียง โนนทอง อายุ 67 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน นั่งร้องไห้อยู่ข้างบ้านที่กำลังถูกไฟไหม้ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจาก อบต. หนองหมี และจาก อบต.ใกล้เคียง พร้อมทั้งชาวบ้าน ได้ช่วยกันตักน้ำใส่ถัง และช่วยกันฉีดน้ำดับไฟ โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที ก็สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้
จากการสอบถาม นางหนูเพียง โนนทอง เล่าให้ฟังว่า บ้านหลังนี้ ตนอยู่ด้วยกัน 3 คน คือ ตน สามี และลูกชาย นอกจากนี้ ตนยังพิการนิ้วกุดด้วย เดินลำบาก ตอนเกิดเหตุตนนั่งกินข้าวอยู่ที่หน้าบ้าน ตอนนั้นตนได้ยินเสียงดัง ตุ้ม ตุ้ม 2 ครั้ง อยู่บนบ้าน และไฟก็เริ่มลุกไหม้
ตอนนั้นตนต้องกัดฟันพยายามเข้าไปในบ้าน เพื่อจะไปเอาทรัพย์สิน และโฉนดที่ดินที่อยู่บนบ้าน แต่ก็หอบมาได้แค่กระเป๋าใส่เอกสารบางส่วนเท่านั้น เนื่องจากตนเดินลำบาก ก่อนที่เพื่อนบ้านจะเข้ามาช่วยหิ้วปีกตนออกจากกองไฟ ส่วนทรัพย์สินที่ถูกไฟไหม้ ก็จะมีทั้งทีวี ตู้เย็น เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องครัว และโฉนดที่ดินส่วนหนึ่ง ถูกไฟไหม้วอดเสียหายทั้งหมด
ด้าน นางจันทร์ศรี คำเอี่ยม อายุ 60 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านมีบ้านติดกัน เล่าให้ฟังว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนได้ยินเสียงดังที่ชั้น 2 ของบ้านหลังเกิดเหตุ ก่อนจะมีประกายไฟ และเห็นไฟกำลังลุกไหม้จากชั้น 2 ตอนนั้นตนก็ร้องตะโกนเรียกพี่น้อง เรียกชาวบ้านคนอื่นๆ ให้เข้ามาช่วยดับไฟ และพาตัวนางหนูเพียงออกมาจากบ้านที่กำลังถูกไฟไหม้ ซึ่งตามปกติทุกวัน นางหนูเพียงจะชอบนอนอยู่ในบ้าน และจะไม่ค่อยมีใครเข้าไปยุ่งวุ่นวายกับแก โชคดีที่ตนเห็นเหตุการณ์ก่อน จึงเข้าไปช่วยนางหนูเพียงออกมาจากบ้านได้ทัน เพราะตอนนั้น ที่บ้านไม่มีใครอยู่เลยมีเพียงนางหนูเพียงอยู่บ้านคนเดียว ตอนไฟไหม้นางหนูเพียงหวงของ และพยายามจะเข้าไปเอาของในบ้าน
…
เบื้องต้นคาดว่า มิเตอร์ไฟฟ้าที่ชั้น 2 ของบ้าน น่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรแล้วระเบิด ทำให้เกิดประกายไฟจนทำให้ไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็ว บวกกับชั้น 2 ของบ้านเป็นไม้ จึงเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ทำให้ไฟไหม้วอดทั้งหลัง โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต ส่วนทรัพย์สิน และความเสียหาย ต้องรอเจ้าหน้าที่เข้ามาประเมินอีกครั้ง การจะได้ดำเนินการต่อไป.