รองโฆษกพรรคไทยสร้างไทย ชี้ คนวัยทำงานไม่พอใจถูกเลือกปฏิบัติ รัฐบาลจัดให้อยู่ในลำดับท้ายสุดของการรับเงินดิจิทัลวอลเล็ต ทั้งที่เป็นกลุ่มที่กระตุ้นเศรษฐกิจได้มากที่สุด ลั่น อย่าทำให้พวกเขาคิดว่าเป็นแค่เครื่องจักรผลิตภาษี
วันที่ 11 มีนาคม 2568 นายทิวากร สุระชน กรรมการบริหารและรองโฆษกพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) กล่าวถึงความกังวลต่อความไม่พอใจของประชาชนวัยทำงานที่เป็นผู้เสียภาษีหลักของประเทศ แต่กลับจะได้รับเงินดิจิทัลวอลเล็ตเป็นกลุ่มสุดท้าย ว่า คนวัยทำงานคือกระดูกสันหลังของประเทศ พวกเขาเสียภาษีบุคคลเพื่อนำไปใช้พัฒนาประเทศและสนับสนุนโครงการรัฐ แต่กลับถูกจัดให้อยู่ในลำดับท้ายสุดของการได้รับเงินดิจิทัลวอลเล็ต ทั้งที่พวกเขาคือกลุ่มที่กระตุ้นเศรษฐกิจได้มากที่สุด
นายทิวากร ระบุต่อไปว่า ความไม่พอใจของคนวัยทำงานที่สื่อสารถึงรัฐบาล เพราะถูกเลือกปฏิบัติและการจัดลำดับกลุ่มเป้าหมาย ประชาชนวัยทำงานตั้งคำถามว่าเหตุใดรัฐบาลจึงเลือกแจกเงินให้กลุ่มผู้สูงอายุและเยาวชนอายุ 16-20 ปีก่อน ในขณะที่พวกเขาซึ่งเป็นผู้สร้างรายได้และต้องดูแลคนในครอบครัว อีกทั้งยังเป็นกลุ่มผู้เสียภาษีรายได้บุคคลกลุ่มหลักให้กับประเทศ แต่กลับต้องรอเป็นกลุ่มสุดท้าย และหลายฝ่ายกังวลว่าเงินที่แจกให้กลุ่มเยาวชนอาจไม่ได้ถูกใช้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะพวกเขายังไม่มีประสบการณ์ทำงานและยังไม่อยู่ในระบบภาษี ทำให้เกิดคำถามว่าโครงการนี้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริงหรือไม่
ขณะเดียวกันเห็นว่า คนวัยทำงานที่รอคอยความช่วยเหลือจากรัฐ เกิดความไม่พอใจและขาดความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลในฐานะผู้เสียภาษีหลักให้กับประเทศ กังวลว่าเงินกู้ที่นำมาใช้ในโครงการนี้อาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจในระยะยาว และสุดท้ายอาจกลายเป็นกลุ่มคนทำงานที่จะกลายเป็นเดอะแบก ช่วยหาเงินมาจ่ายภาษีที่พวกเขาไม่ได้สร้างขึ้นในอนาคต ตนมองว่าการเลือกแจกเงินให้กลุ่มเยาวชนก่อน อาจเป็นเพราะต้องการสร้างฐานเสียงทางการเมืองมากกว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างแท้จริง และโครงการนี้ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อช่วยเหลือพวกเขา ทั้งยังมีเงื่อนไขของดิจิทัลวอลเล็ต เช่น การจำกัดพื้นที่และประเภทการใช้จ่าย ทำให้ประชาชนมองว่าเงินนี้อาจไม่สามารถนำไปใช้ได้อย่างคล่องตัว และอาจไม่ช่วยบรรเทาปัญหาทางเศรษฐกิจของพวกเขาได้จริง
…
“พรรคไทยสร้างไทย ขอเรียกร้องให้รัฐบาลปรับปรุงแนวทางการช่วยเหลือประชาชนโดยให้ความสำคัญกับกลุ่มวัยทำงานที่เป็นผู้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ อย่าปล่อยให้พวกเขารู้สึกว่าเป็นแค่เครื่องจักรผลิตภาษีโดยไม่ได้รับสวัสดิการที่เหมาะสม”
