ปัดหาเสียง “ทักษิณ ชินวัตร” เผย ลงพื้นที่พบมวลชนเสื้อแดง เพื่อสร้างความสามัคคี ไม่ได้มาปลุกกระแสความขัดแย้ง ชี้ ประเทศบอบช้ำมามากแล้ว แง้ม เตรียมเดินสายเยี่ยมเยียนเป็นภูมิภาคอีก

วันที่ 17 มีนาคม 2568 นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ช่วงหนึ่งถึงการลงพื้นที่ จ.พิษณุโลก เพื่อพบปะมวลชนคนเสื้อแดงภาคเหนือตอนล่าง ที่มหาวิทยาลัยพิษณุโลก ว่า ติดหนี้ไว้นาน ที่เคยสัญญาว่ากลับมาก็จะมาเจอบ้าง วันนี้ขยับตัวได้จึงมาเยี่ยมเยียน ไม่ใช่การหาเสียง และต่อไปก็จะมีการเดินสายเยี่ยมเยียนเป็นภูมิภาคอีก เพราะตอนสมัยที่ตนอยู่ดูไบ (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) ก็มีการประสานมาว่าจะให้ตนไปพูดที่นั่นที่นี่ แต่ตอนนั้นใกล้เลือกตั้งพอดี ตนจึงบอกว่าอย่าเลยเดี๋ยวเป็นประเด็นและเบรกไว้ก่อน แต่นี่กลับมา 2 ปีแล้ว ยังไม่ได้มา ก็ต้องลงมาในครั้งนี้

นายทักษิณ กล่าวอีกว่า สิ่งที่จะมาพูดเน้นเรื่องการให้เกิดความรักความสามัคคี เพราะตอนนี้ประเทศเราต้องการให้ทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากัน ทำงานให้กับประเทศ เพราะประเทศบอบช้ำมามากแล้ว ปล่อยแบบนี้ต่อไปไม่ไหว ไม่ได้เป็นการปลุกกระแสคนเสื้อแดงให้กลับมา และไม่ได้เป็นการปลุกให้เกิดความขัดแย้งในประเทศอย่างแน่นอน มีแต่จะสร้างความสามัคคีให้เกิดขึ้นในประเทศไทยให้ได้มากที่สุด

“วันนี้ข่าวขัดแย้งมันเยอะไป อย่างผมนั่งฟังรายการข่าว บางคน พิธีกรก็แถม แถมอารมณ์ ซึ่งมันไม่ดี อยากเห็นทุกฝ่ายเห็นแก่บ้านเมือง ลำพังแค่นี้เราก็สู้เขายากแล้ว มาทะเลาะกันอีก ก็สู้ยากอีก”

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า บริเวณงานมีเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบคอยดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวด มีการติดตั้งเครื่องสแกนโลหะและตรวจสอบผู้เข้าร่วมงานทุกคน เพื่อให้แน่ใจว่างานเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ขณะเดียวกัน ก่อนนายทักษิณ มาถึง พบว่ามีกลุ่มเกษตรกรชาวนา มารวมตัวเพื่อยื่นหนังสือร้องเรียนขอความช่วยเหลือเรื่องเงินค่าข้าวที่ยังไม่ได้รับจากโครงการจำนำข้าวปี 48/49 ซึ่งเป็นจำนวนเงินกว่า 58 ล้านบาท ครอบคลุม 464 ครัวเรือน ใน 7 อำเภอ ของจังหวัดพิจิตร โดยระบุว่าเงินดังกล่าวติดอยู่ที่องค์การคลังสินค้า และยังไม่ได้รับการจ่ายมาเป็นเวลา 19 ปี (ตั้งแต่ปี 2549-2568) ซึ่งกลุ่มเกษตรกรชาวนาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบสกัดไม่ให้เข้าภายในบริเวณงาน แต่ทางเจ้าหน้าที่ได้ประสานไปยังตัวแทนของนายทักษิณ เพื่อรับหนังสือร้องเรียนแทน

ต่อมา 14.00 น. ภายหลังพบปะมวลชน นายทักษิณ เดินทางไปสักการะพระพุทธชินราช ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร สักการะสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่พระราชวังจันทน์ ก่อนเดินทางกลับ