“สส.กฤช” ปัดสร้างสถานการณ์ หลังแฉแชตซื้อตัว 20 ล้านแลกเสียงโหวต “นายกฯอิ๊งค์” ยันมีหลักฐานชัด คาดอาจต้องการโชว์ผลงาน ดีลแลกเก้าอี้รัฐมนตรี-ดิสเครดิต “ปชน.” เตรียมส่งหลักฐานให้ กก.บห.พิจารณา 1 เมษายนนี้

วันที่ 27 มีนาคม 2568 ที่รัฐสภา นายกฤช ศิลปชัย สส.ระยอง พรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์กรณีที่มีการโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวว่ามีการเจรจาขอซื้อตัว สส. เพื่อแลกกับการโหวตไว้วางใจนายกรัฐมนตรีว่า เป็นไปตามที่ตนโพสต์ว่ามีคนมาติดต่อซื้อตัวเป็นงูเห่า ยืนยันเหตุการณ์ทั้งหมด ทั้งแชตและโทรศัพท์ ตั้งแต่คืนอภิปรายวันที่สองจนถึงวันโหวต มีการติดต่อมาจริง อีกทั้ง นายพงษธร ศรเพชรนรินทร์ รองเลขาธิการพรรคประชาชนก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วย
“ผมไม่รู้ว่าจะสร้างสถานการณ์ขึ้นมาทำไม หลักฐานที่นำเสนอไปก็เป็นเพียงแค่บางส่วน แต่ก็อยากให้มีการตรวจสอบเสียงสนทนา เพราะผมไม่ได้บันทึกไว้ มีแต่เพียงประวัติการโทรเท่านั้น” นายกฤช กล่าวและว่า

แฉ “นาง ณ” ตัวดีลต้นทาง
สำหรับแชตที่โพสต์ไป ตนได้รับการบอกต่อจากนายเอว่า นายบี นักการเมืองท้องถิ่น ได้รับติดต่อรายละเอียดมาตามแชตดังกล่าวจาก นาง ณ ที่เป็นกรรมการบริหารพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง จากนั้นเมื่อตนทราบชื่อนาง ณ เป็นกรรมการบริหารพรรค จึงไปตรวจสอบข้อมูลพบว่าพรรคดังกล่าวสิ้นสุดสถานภาพตามประกาศราชกิจจานุเบกษาไปแล้ว เพราะมีจำนวนสมาชิกไม่ครบ ก่อนหน้านี้ ช่วงเดือนพฤศจิกายน 2565 มีสื่อมวลชนเปิดประวัติพรรคการเมืองนี้ โดยมีรายละเอียดว่าอาจจะเป็นพรรคสำรองของใครบางคน ก่อนหน้านี้ หัวหน้าพรรคดังกล่าวก็มีความสนิทสนมกับบ้านใหญ่ภาคอีสาน เนื่องจากทำธุรกิจแข่งรถด้วยกัน

ลูกเพื่อนพ่อรับไม้ต่อ

นายกฤช บอกถึงความสัมพันธ์ของบุคคลที่ติดต่อมาว่า นายเอ ลูกของเพื่อนคุณพ่อตน รู้จักกันมาอยู่แล้ว ส่วนคนที่จะซื้อตนไม่รู้จัก และคิดว่านายเอก็ไม่รู้จัก แต่ได้รับการติดต่อจากนายบีมาอีกทอดหนึ่ง จากเหตุการณ์นี้ ตนไม่ได้คุยกับนายบี และนาง ณ มีเพียงการติดต่อทางไลน์และมือถือกับนายเอเท่านั้น ซึ่งแชตที่ตนโพสต์ไป คนคาดว่าเป็นการคุยกันระหว่างนายบี และนาง ณ และเป็นการส่งแคปจอต่อมาอีกทีหนึ่ง

สำหรับการดำเนินการจากนี้ หากทำได้ตนก็จะดำเนินการ ซึ่งแจ้งกับเลขาธิการพรรคแล้ว โดยจะมีการนำเข้าที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคในวันที่ 1 เมษายนนี้ แต่เรื่องนี้ที่ยังต้องตรวจสอบกันเพิ่มเติม เพราะบุคคลที่เกี่ยวข้องไม่ได้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อีกทั้งตนก็เป็นห่วงพยานที่มีความเกี่ยวข้อง ซึ่งคิดว่าการที่ตนเปิดเผยแบบนี้คนที่โทรมาหาก็คงไม่สบายใจ ซึ่งได้คุยกับนายเอแล้ว และได้รับการตอบกลับว่าไม่สบายใจ แต่ตนในฐานะผู้แทนราษฎรก็ต้องนำเสนอเรื่องนี้ต่อสังคมให้ได้รับรู้

เชื่อต้องการดิสเครดิต ปชช.

ส่วนการที่นายกรัฐมนตรีออกมาตอบโต้ว่า ไม่มีความสมเหตุสมผลที่จะต้องซื้อตัวงูเห่าเข้ามา เพราะรัฐบาลก็มีสมาชิกมากอยู่แล้ว เรื่องนี้ตนก็เห็นด้วย คิดว่าถ้าจะซื้อเพื่อเติมเสียงให้รัฐบาลคงไม่ใช่ แต่จะมีอีกสองมุมถ้าทำภารกิจนี้สำเร็จ คือจะดิสเครดิตภาคประชาชนได้แน่นอน สุดท้ายคือการใช้ตนเป็นตัวล่อที่จะแสดงอำนาจกับผู้มีศักยภาพทางการเมืองให้ได้เห็นว่าบุคคลที่ดำเนินการสามารถมาดีล สส.ได้ และอาจจะนำไปสู่การต่อรองปรับคณะรัฐมนตรีที่กำลังจะมาถึง

เปิดชื่อพรรคต้นสังกัด

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าพรรคการเมืองที่ติดต่อขอซื้อตัว มีความเกี่ยวข้องกับพรรคไทยสร้างสรรค์ใช่หรือไม่ นายกฤช ตอบสั้น ๆ เพียงว่า ชื่อคล้าย ๆ พรรคไทยสร้างไทย พร้อมกล่าวถึงการดำเนินการด้านพรรคการเมืองว่าพรรคที่ติดต่อมาไม่มีสถานะแล้ว อาจจะไม่สามารถดำเนินการที่เกี่ยวกับกฎหมายพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง แต่สิ่งที่อยากสะท้อนไปถึงสังคมว่าการเมืองไทยในปัจจุบันก็ยังมีเหตุการณ์แบบนี้อยู่ พยายามเล่นกันทั้งข้างในและข้างนอกสภาฯ

ผู้สื่อข่าวถามว่าพยานหลักฐานจะสามารถโยงไปถึงนักการเมืองในรัฐบาลนี้ได้หรือไม่ นายกฤช ระบุว่า ไม่ได้ชัดขนาดนั้น แต่จะปรากฏการณ์การโหวตอภิปรายไม่ไว้วางใจ มีสมาชิกฝ่ายค้านใดที่โหวตให้กับนายกรัฐมนตรีบ้าง ซึ่งก็มีหลายพรรคอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับพรรคใดพรรคหนึ่ง เพื่อต่อรองในการร่วมรัฐบาล

“นาง ณ” ปัดไม่เกี่ยวข้อง

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อไปยังหมายเลขโทรศัพท์ที่นายกฤช ระบุว่า เป็นหมายเลขโทรศัพท์ของนาง ณ แต่ปลายสายให้การปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว ไม่สะดวกให้สัมภาษณ์และวางสายไปทันที