“ชูศักดิ์” บอกศาล รธน. รับวินิจฉัยทำประชามติก่อนแก้ รธน. หรือไม่ ถือเป็นเรื่องดี เพื่อความชัดเจน ยืนยันส่วนตัวอยากได้ 2 ครั้ง เพราะหาก 3 ครั้ง หาเจ้าภาพทำครั้งแรกยาก
เมื่อเวลา 14.20 น. วันที่ 9 เม.ย.2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญรับวินิจฉัยคำร้อง นพ. เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว. และคำร้องของนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ที่เสนอญัตติให้วินิจฉัยว่าทำประชามติก่อนแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ ว่า ศาลรับไว้แล้วถือเป็นเรื่องดี ส่วนผลจะออกมาเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล สาเหตุที่ศาลรับไว้พิจารณาตนคิดว่า การยื่นครั้งนี้แตกต่างจากครั้งที่แล้ว เพราะครั้งที่แล้วไม่มีการบรรจุในระเบียบวาระ และไม่มีการพิจารณาในสภา แต่ครั้งนี้บรรจุในระเบียบวาระแล้ว และมีความขัดแย้งเกิดขึ้นแล้ว การรับไว้วินิจฉัยจึงเป็นเรื่องดี ส่วนที่ศาลรัฐธรรมนูญให้จัดทำความเห็นส่งต่อศาลภายใน 15 วันนั้น นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ตนยังไม่เห็นรายละเอียด จึงไม่สามารถตอบได้ว่าจะส่งอะไร
ทั้งนี้ ตนคิดว่าเมื่อศาลรัฐธรรมนูญรับไว้วินิจฉัยแล้ว ต่อไปการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็จะเกิดความชัดเจน เพราะจากที่เห็นในสภาที่ผ่านมา ฝ่ายหนึ่งก็ไม่เข้าประชุม ฝ่ายหนึ่งเดินหนี อย่างนั้นอย่างนี้เป็นต้น สาเหตุที่เขาทำอย่างนั้นเพราะเชื่อว่าการแก้รัฐธรรมนูญจะทำไม่ได้ ขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งเชื่อว่าทำได้ เมื่อเป็นเช่นนั้นทำให้เกิดอุปสรรคทำให้วนอยู่แบบนี้ ซึ่งการที่ศาลรับไว้ และให้เราพิจารณาว่าจะทำประชามติสองหรือสามครั้ง เพื่อที่เราจะได้เดินต่อถูก จึงถือว่าเป็นประโยชน์ทั้งนั้น ตนหวังว่าจะมีข้อยุติ เมื่อถามว่า ส่วนตัวหวังไว้ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะให้ทำประชามติกี่ครั้ง นายชูศักดิ์ กล่าวว่า หวังไว้ 2 ครั้งเพื่อที่จะทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญเสร็จภายในสมัยนี้
…
เมื่อถามว่า หากศาลรัฐธรรมนูญให้ทำสามครั้ง นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ไม่เป็นไร สามก็บอกมาว่าสามจะได้ทำถูก แต่หากทำสามครั้งตนเคยเรียนในสภาไว้แล้วว่าใครเป็นเจ้าภาพ เพราะจะหาเจ้าภาพไม่เจอ ส่วน ครม. จะเป็นเจ้าภาพก็ไม่ได้ เพราะเป็นร่างของพรรคการเมือง ตนจึงหวังให้ทำประชามติสองครั้งก็จะไปได้