แม่วอนให้ลูกชายเข้ามอบตัว หลังยิงตำรวจเสียชีวิต บุกค้นที่บ้านพบยาบ้าอีก 1 หมื่นเม็ด ด้านน้าเขยเชื่อหลานเป็นคนดี อยากให้มอบตัว ขณะที่ ผบก.ภ.จว.เลย ตั้งรางวัลนำจับ 1 แสนบาท
จากกรณีสูญเสียตำรวจกล้า “ร.ต.ต.ไพโรจน์ พรหมอินทร์ รอง สว.(ป.) สภ.เมืองเลย” ถูกนายบุญเกิด คนร้ายยิงเข้าที่หน้าอก 2 นัด เสียชีวิตขณะออกสืบสวนปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด บริเวณสวนยางพาราพื้นที่บ้านกอไผ่โทน ต.กกดู่ อ.เมือง จ.เลย (อ่านข่าว : อาลัยตำรวจกล้า “ร.ต.ต.” ถูกคนร้ายคดียาเสพติดยิงเสียชีวิตขณะเข้าจับกุม)
ล่าสุดเมื่อเวลา 07.00 น. ของวันที่ 11 เม.ย. 68 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าที่บ้านแม่ของนายบุญเกิด ที่บ้านกอไผ่โทน ต.กกดู่ อ.เมืองเลย พบว่าเป็นบ้านครึ่งไม้ครึ่งปูน 2 ชั้น พบนางกองมา อายุ 66 ปี และนายนริศ อายุ 65 ปี พ่อและแม่ของนายบุญเกิด พร้อมด้วยญาตินั่งพูดคุยกันอยู่
นางกองมา ผู้เป็นแม่ เล่าว่า ไม่ทราบว่าลูกไปเกี่ยวข้องเรื่องยา ตอนออกจากเรือนจำเขาก็รับปากว่าจะเป็นคนดี พูดกับแม่ แม่ก็เชื่อลูก พอถึงวันนี้เพิ่งรู้ เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจเอากล่องยามาให้ดู พอรู้ข่าวว่าลูกชายยิงตำรวจตายก็สงสารเขา จะไปขอโทษเขาวันเผา แม่ก็ไม่รู้ว่ามันจะเกิดเหตุขึ้น อยากให้ลูกชายมอบตัว แต่ลูกชายยังไม่ติดต่อมา
จากนั้นแม่นายบุญเกิดได้พาผู้สื่อข่าวเข้าไปที่ห้องนอน หลังจากเมื่อวานตำรวจค้นกระท่อมสวนยางได้อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ 3 กระบอก ยาบ้าประมาณ 1,000 เม็ด จากนั้นมาค้นบ้านของนายบุญเกิด เจอยาบ้าประมาณ 10,000 เม็ด ในห้องนอนของลูกชาย ตำรวจจึงได้ตรวจยึดและนำแม่ไปสอบปากคำ

…
นายนริศ ผู้เป็นพ่อ บอกว่าไม่ทราบเรื่องลูกชายเลย และไม่ค่อยได้พูดคุยกัน และไม่รู้จะติดต่อลูกอย่างไร เพราะไม่มีมือถือแต่ก็อยากให้ลูกเข้ามอบตัว
ด้านนายสาคร อายุ 59 ปี น้าเขยนายบุญเกิด เล่าว่า เพิ่งจะทราบเรื่อง ตอนมีคนมาบอก จากการสอบถามและคนในครอบครัวมีความคิดเห็นว่ากรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปหาหลานเขย ถ้าเข้าไปปกติ ก็คงไม่เกิดการต่อสู้ขึ้น แต่คิดว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจคงถือปืนเข้าไป ทำให้หลานตกใจยิงต่อสู้และหลบหนี มันเป็นสัญชาตญาณของคนป้องกันตัว และยอมรับว่าหลานเขยเป็นคนดี และอยากให้หลานเข้ามอบตัว
นายสมเกียรติ ผช.ผญบ. กอไผ่โทน เล่าว่า ตอนนี้ยังไม่มีคำสั่งให้ทาง ชรบ. ทำอะไร มีเพียงเมื่อวานที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่าสามารถทราบพิกัดในบุญเกิด หลบหนีไปที่ภูป่าซาง บ้านกำพี ต.กกดู่ ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 5 กิโลเมตร นำกำลังไปปิดล้อมค้นหา จนถึงเช้านี้ แต่ก็ยังไม่พบตัว ก็คงยังมีเจ้าหน้าที่บางส่วนอยู่ที่นั่น และมีเจ้าหน้าที่อีกส่วนหนึ่งอยู่ที่บ้านกอไผ่โทน
เวลา 12.00 น. ที่โรงพยาบาลเลย พ.ต.อ.วรชัย บางยี่ขัน ผกก.สภ.เมืองเลยได้นำร่างของ ร.ต.ต.ไพโรจน์ จากโรงพยาบาลเลย นำไปทำพิธีทางศาสนาที่ศาลา 2 วัดศรีสุทธาวาส (วัดเลยหลง) โดยจะมีผู้บังคับบัญชาและเพื่อนตำรวจนำร่างมาที่วัด เมื่อมาถึง ได้ช่วยกันยกร่าง ร.ต.ต.ไพโรจน์ ลงจากรถกู้ภัยเทวา โดยมีญาติติดตามมาด้วย จากนั้นนำร่างไปที่ตั้งภายในศาลา เพื่อรอพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10
ร.ต.ต.หนูเหลี่ยม พรหมอินทร์ อายุ 77 ปี อดีตตำรวจ สภ.วังสะพุง พ่อของ ร.ต.ต.ไพโรจน์ เล่าว่า พอทราบว่าลูกเสียชีวิตก็สงสาร เพราะอยู่ด้วยกันมานาน ตั้งแต่เล็กจนโต และชีวิตของผู้ชายปฏิบัติหน้าที่ต้องเสี่ยงเป็นธรรมดา จนถูกคนร้ายยิงหรือปะทะกัน ก็ต้องยอมรับความจริง ไม่ฝ่ายใดก็ฝ่ายหนึ่ง มันมีแค่นั้นมันไม่มีอะไร ภูมิใจในตัวลูกมากที่สุด เพราะให้ลูกเรียนจบปริญญาตรี มาเป็นตำรวจเหมือนพ่อ ภูมิใจในตัวลูกมาก ส่วนพิธีทางศาสนาจะทำกี่วันยังไม่ทราบ อยู่ที่ทางผู้บังคับบัญชาดำเนินการ
โดยมี พล.ต.ท.ฉัตรชัย สุรเชษฐ์พงษ์ ผู้บัญชาการภาค 4 เป็นประธานพิธีน้ำหลวงอาบศพ พล.ต.ต.วีระเดช เลขะวรกุล ผบก.ภ.จว.เลย พร้อม รอง ผบก.ภ.จว.เลย ผกก.สภ.เมืองเลย และข้าราชการตำรวจ ญาติผู้เสียชีวิต ร่วมพิธี พล.ต.ท.ฉัตรชัย สุรเชษฐ์พงษ์ ผู้บัญชาการภาค 4 เปิดเผยว่า ทางสำนักงานตำรวจได้ช่วยเหลืออย่างเต็มที่ เพราะเป็นการปฏิบัติหน้าที่ และมีการนำเรื่องเพิ่มยศฯให้ไปทาง สตช. พิจารณา ส่วนลูกผู้เสียชีวิตจะเข้ารับราชการตำรวจ ก็พิจารณาพิเศษ ส่วนการติดตามคนร้าย ตอนนี้ได้หารือประชุม โดยมีเจ้าหน้าที่ปิดล้อมบริเวณที่เกิดเหตุ โดยประสานไปยัง ตร.ตชด.24 อุดรธานี นำสุนัขดมกลิ่นมาช่วยติดตามคนร้าย
ส่วน พล.ต.ต.วีระเดช เลขะวรกุล ผบก.ภ.จว.เลย ได้มีการตั้งรางวัลนำจับ 100,000 บาท ผู้ที่ทราบเบาะแสหรือที่อยู่จนสามารถจับกุมตัว โดยแจ้งทาง ตร.ในพื้นที่ หรือ 191.