“พีช” ถือพวงมาลัย คุกเข่าขอโทษครอบครัวลุงป้ากระบะ ยินยอมดูแลค่าเสียหาย เผยเหตุไม่ไปเยี่ยมวันแรก เพราะตกใจ ไม่มีเจตนาหนี พร้อมขอโอกาสสังคม ขณะที่ กัน จอมพลัง ดึงตัวญาติคู่กรณีออก
จากกรณี นายสมิทธิพัฒน์ หรือ พีช หลีนวรัตน์ อายุ 28 ปี ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล (สท.) ต.ธัญบุรี อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ขับรถเก๋งบีเอ็มดับเบิลยู สีขาว ป้ายแดง ทะเบียนกรุงเทพมหานคร ปาดหน้ารถกระบะลุงกับป้า เหตุเกิดที่ถนนกาญจนาภิเษกหมายเลข 9 บางนา-บางปะอิน มุ่งหน้าบางปะอิน กม.22 อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี โดยขณะนั้นชาวบ้านถ่ายคลิปนายพีชขับไปชนแบริเออร์ และยังไม่ลดละจอดรถลงจากรถพร้อมถอดเสื้อแล้วตะโกนด่าคู่กรณีอย่างดุเดือด อ้างตัวเป็นหลาน ผบ.ตร.และมีพ่อเป็นผู้มากบารมีแสดงความก้าวร้าวอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย
โดยเมื่อช่วงหัวค่ำ วานนี้ (18 เม.ย. 68) นายสมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ อายุ 28 ปี ได้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาที่เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งไปทั้งหมด 4 ข้อหา 1. ทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส (กรณีคุณลุง) 2.ทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ (กรณีคุณป้า) 3.ขับรถไม่คำนึงถึงความปลอดภัยฯ และ 4.ทำให้เสียทรัพย์ ตามที่รายงานไปแล้วนั้น (อ่านข่าว : “น้องพีช BMW” ย่องพบตำรวจกลางดึก รับทราบ 4 ข้อหา)
ล่าสุดวันนี้ (19 เม.ย. 68) เมื่อเวลา 15.10 น. มีรายงานว่า นายสมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ หรือ พีช พร้อมด้วยบิดา นายกฤษฎา หลีนวรัตน์ นายกเทศมนตรี ต.ธัญบุรี อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี หรือ นายกเบี้ยว ได้เดินทางมาถึง สภ.ลำลูกกา
…
ขณะเดียวกัน “กัน จอมพลัง” ได้พาญาติกระบะคู่กรณีเดินทางมาที่ สภ.ลำลูกกา พร้อมกับเปิดเผยว่า วันนี้ตนเองได้พาทางครอบครัวผู้ได้รับบาดเจ็บพร้อมพยานที่เห็นเหตุการณ์มาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเปิดทางให้ทางคู่กรณีที่บอกว่าอยากจะขอโทษพูดคุยกับครอบครัวของผู้ได้รับบาดเจ็บได้มาเจอ โดยทางครอบครัวผู้ได้รับบาดเจ็บบอกว่า อยากให้เป็นการเจอกันในที่แจ้ง หรือเจอกันต่อหน้าทุกคนเพื่อเป็นสักขีพยาน
วันนี้ได้นำข้อมูลจากทางพยานที่น่าสนใจมามอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ อย่างเช่น ในเรื่องของความเร็ว อยากให้ตำรวจสอบว่าความเร็วขณะเกิดเหตุอยู่ที่เท่าไร อีกประเด็นคือ อยากให้สอบถามคุณหมอว่า อาการบาดเจ็บของคุณตา สามารถทำให้เสียชีวิตได้หรือไม่ แล้วจะมีในส่วนของข้อกล่าวหาอื่นได้หรือไม่ เช่น การลงบันทึกหลังเกิดเหตุของฝ่ายคู่กรณี ซึ่งอยากให้ทาง สภ.ลำลูกกา ประสานกับทางหลวงตรวจสอบในเรื่องนี้ด้วย และอยากให้คู่กรณีรับผิดชอบ อยากเห็นความจริงใจของฝ่ายคู่กรณี
ทางลูกสาวผู้บาดเจ็บ กล่าวว่า ที่เขาขอโทษผ่านรายการเมื่อวาน เรายังไม่เห็นถึงความจริงใจเท่าไร ตอนนี้ยังไม่สามารถพูดว่าให้อภัยได้ วันนี้ที่เขาตั้งใจมาขอโทษ ส่วนตัวรู้สึกว่าเขามาขอโทษเพราะกระแสสังคม หรืออาจจะเอาไปประกอบในเรื่องของคดีในอนาคต ส่วนตัวคิดว่าถ้าพี่กัน จอมพลัง มายื่นมือเข้ามาช่วย เราคงไม่ได้รับสิทธิ์นี้
ตอนนี้เป็นตัวแทนของพ่อแม่ที่อยู่ รพ. เพื่อให้เขาได้รับการรักษาแล้วออกมา ตอนนี้ไม่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติแล้ว เพราะซี่โครงหัก 6 ซี่ หน้าอกร้าว ปอดช้ำ พ่อก็อายุเยอะแล้ว ซึ่งตนอยากให้เยียวยาพ่อแม่ ซ่อมรถ รักษาเขาให้หายจนสามารถดำเนินชีวิตได้
ต่อมา นายสมิทธิพัฒน์ หรือ พีช พร้อมกับบิดา ได้เดินถือพวงมาลัยออกมาพบ ครอบครัวผู้ได้รับบาดเจ็บ และกัน จอมพลัง ท่ามกลางวงสื่อมวลชน
โดย นายสมิทธิพัฒน์ หรือ พีช ได้คุกเข่าขอโทษ แต่ทางกัน จอมพลัง ได้ดึงตัวญาติคู่กรณีออก ซึ่งทาง นายสมิทธิพัฒน์ หรือ พีช ได้ระบุว่า “ผมขอโทษ ผมไม่มีเจตนาให้เป็นอย่างนั้น ค่าเสียหายทั้งหมด ค่ารถ ค่าพยาบาล ยินยอมดูแลให้ เรื่องที่ไม่ได้ไปดูวันแรก ยอมรับว่าตกใจจริงๆ ไม่มีเจตนาหนีไปไหน รู้สึกผิดที่ทำให้คุณลุงคุณป้าเจ็บ ถ้าเป็นครอบครัวผมก็รู้สึกไม่ดีเหมือนกัน มาวันนี้ก็ตั้งใจมาขอโทษ ขอสังคมให้โอกาส หยุดด่าผม” จากนั้น นายกฤษฎา หรือ นายกเบี้ยว ผู้เป็นบิดาก็ได้พาลูกชายออกจากวงสื่อ และพาขึ้นรถยนต์ออกจาก สภ.ลำลูกกา
…
ด้าน กัน จอมพลัง เปิดเผยอีกว่า ทุกคนเห็นการเจรจาไหม ส่วนตัวผมยังไม่รู้สึกว่าเป็นการเจรจาตรงไหนเลยนะ การที่มาแบบนี้เพื่ออะไร เพื่อเอาไปประกอบในการลดโทษหรือไม่ วันนี้ถ้าเราขอทำด้วยความจริงใจ ทางครอบครัวเขามีประสงค์ในการตั้งคำถาม ทำไมการตอบคำถามให้ครอบครัวเขาสบายใจมันยากหรือครับ ถ้าเรามีความตั้งใจจริง ๆ ไม่ใช่ว่าเราอยากทำตามใจตนเองหรือเปล่า อยากทำอะไรก็ทำ พอทำเสร็จแล้วก็ไปแบบนี้หรือ วันนี้เป็นโอกาสที่ดีถ้าตัวเขาเองเคลียร์เรื่องความจริงใจคุยกับทางครอบครัวแล้ว และทางครอบครัวรู้สึกโอเค การที่เขาจะไปคุยกับคุณตาคุณยายทางครอบครัวเปิดโอกาสให้เจอนั้นมันไม่ใช่เรื่องยาก แต่ไม่ใช่การเปิดโรงพยาบาลแล้วเดินเข้าไปอีกแบบนี้ มันไม่ได้ ให้ทุกคนดูแล้วกันว่าตัวเขามีความจริงใจหรือไม่ที่จะขอโทษ อยู่ดี ๆ จะเข้ามาคุกเข่าขอโทษแต่ยังไม่มีการเยียวยาเลย ผ่านมา 4-5 วันแล้วเราจะรู้หรือยังใครจะจ่ายค่ารถ ใครจะซ่อม ยังไม่มีความชัดเจนอะไรเลย.