เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบเหตุยิงดับ 3 ศพ ในบ้านที่เชียงราย คาดฝีมือคนเป็นพ่อ ยิงเมียและลูกวัย 5 ขวบ ก่อนจบชีวิตตัวเองตายตาม ปมหึงหวง
วันที่ 11 พ.ค. 68 พ.ต.ท.สาคร ขัตติยะบุตร รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองเชียงราย ร.ต.ท.ณัฐพล คำกร รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองเชียงราย ลงพื้นที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานพิสูจน์หลักฐานจังหวัดเชียงราย แพทย์ รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ และมูลนิธิสยามเชียงรายสำนักงานใหญ่ ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุยิงกันตาย 3 ศพ ที่บ้านหลังหนึ่งบ้านป่าลัน หมู่บ้านบริวารของบ้านร่มเย็น ม.11 ต.ห้วยชมภู อ.เมืองเชียงราย
โดยมีรายงานว่ามีผู้ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 3 นัดในบ้านที่เกิดเหตุ เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. ของวันที่ 10 พ.ค. ที่ผ่านมา กระทั่งเวลาประมาณ 08.00 น. ของวันนี้ จึงมีคนไปตรวจสอบดู พบผู้เสียชีวิตจำนวน 3 คน คือ นายลาหู่นะ บุคคลไร้สัญชาติ ไม่มีนามสกุล อายุประมาณ 31 ปี น.ส.นาดู จะคะปิ อายุ 34 ปี และ ด.ช.จิรายุ จะคะปิ อายุ 5 ปี ซึ่งทั้งหมดเป็นพ่อแม่ลูกกัน
จากการตรวจสอบ น.ส.นาดู ถูกกระสุนปืนยิงเข้าที่บริเวณหน้าอก ส่วน ด.ช.จิรายุ ถูกกระสุนปืนยิงเข้าที่บริเวณศีรษะ คาดว่าเป็นฝีมือของนายลาหู่นะ ที่เป็นคนยิงเมียและลูก ก่อนที่จะปลิดชีพตัวเองตายตาม
ภายในบ้านยังพบอาวุธปืนลูกซองยาวไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก ด้ามปืนและตัวปืนหักออกจากกัน และพบปลอกกระสุนที่ยิงไปแล้วจำนวน 3 นัด โดยที่ยังมีลูกปืนค้างอยู่รังเพลิงอีก 1 นัด และยังพบกระดาษที่คาดว่าใช้ห่อสารเสพติดตกอยู่ที่พื้นบ้านด้วย
จากการสอบถามเพื่อนบ้านทราบว่า สองผัวเมียมักทะเลาะกันบ่อยเรื่องหึงหวง ล่าสุดก่อนเกิดเหตุมีคนได้ยินทั้งสองคนทะเลาะกัน แต่ไม่มีใครคิดว่าจะถึงขั้นยิงกันตาย

…
น.ส.ศรัณพร อายุ 16 ปี ลูกสาวของ น.ส.นาดู ผู้เสียชีวิต เล่าว่า ตั้งแต่แม่มีครอบครัวใหม่ ตนก็ไปอยู่กับญาติฝั่งพ่ออีกหมู่บ้านหนึ่ง ไม่ได้อยู่ด้วยกัน โดยบ้านหลังเกิดเหตุก็จะมีพ่อเลี้ยง แม่ และน้องอายุ 5 ขวบ อาศัยอยู่ด้วยกัน นานๆ ที ตนจะแวะมาหาแม่สักครั้ง กระทั่งเช้านี้ทางญาติฝั่งแม่โทรบอกว่าพ่อเลี้ยง แม่ และน้องโดนยิงเสียชีวิตในกระท่อมกลางสวนมันสำปะหลัง ตนจึงรีบมาดู ก่อนหน้านี้แม่ไม่เคยเล่าปัญหาอะไรให้ฟัง จึงไม่รู้ว่าแม่กับพ่อเลี้ยงเคยทะเลาะกันหรือไม่
ด้านนายล่อจู เหวนซากู่ ผญบ.ร่มเย็น เล่าว่า ตนได้รับแจ้งจากคนในหมู่บ้านป่าลัน ซึ่งเป็นบ้านบริวารของบ้านร่มเย็น จึงรีบมาดู จากการสอบถามจาก ผช.ผญบ. และคนในชุมชน ทราบว่าตัวนายลาหู่นะ และครอบครัวไม่ค่อยไปสุงสิงกับใคร เวลามีงานในหมู่บ้านเขาก็จะไปช่วยงาน พองานเสร็จแล้วก็กลับบ้าน ไม่เคยทราบมีประวัติว่าเป็นผู้ป่วยจิตเวช หรือยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด จึงไม่ทราบว่าทำไมถึงก่อเหตุขึ้น
โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา มีคนได้ยินเสียงคล้ายประทัดในเวลาประมาณ 3 ทุ่ม แต่ตอนนั้นไม่มีใครสนใจ จนเช้าวันนี้ยายของเด็กแปลกใจที่หลานชายไม่ไปทานข้าวเช้าที่บ้าน เพราะปกติหลานมักจะไปกินข้าวเช้าที่บ้านของยายตลอด ยายจึงมาตามหาที่บ้าน จนมาพบศพดังกล่าว และแจ้งผู้นำชุมชนประสานเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะได้รวบรวมหลักฐานและสอบสวนเพิ่มเติม เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป