“คมนาคม” จ่อชง ครม. ไฟเขียวโครงการ “บ้านเพื่อคนไทย” ต.ค.นี้ ด้าน อทส. ผนึกกำลัง “กองสลากฯ” เตรียมจับสลากผู้ลงทะเบียนผ่านเกณฑ์จาก ธอส. กว่า 1.3 แสนราย ภายใน พ.ย. 68 ประเดิมเฟสแรก 5 พันยูนิต มูลค่าก่อสร้าง 6-7 พันล้าน คาดเปิดให้เข้าอยู่ปลายปี 69
วันที่ 13 พ.ค. 68 นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยหลังเป็นประธานในพิธีลงนาม บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ การจับสลากเพื่อหาผู้ได้รับสิทธิโครงการบ้านเพื่อคนไทย ระหว่าง สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กับ บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด (อทส.) ว่า จากที่ได้เปิดให้ประชาชนที่สนใจจะมีบ้านเป็นของตัวเองเข้ามาจองสิทธิ์ในโครงการบ้านเพื่อคนไทยและปิดการจองเมื่อ 11 เม.ย. 68 ที่ผ่านมา
พบว่ามียอดจองของประชาชนใน 4 พื้นที่ ประกอบด้วย พื้นที่ สถานี กม.11 บริเวณบางซื่อ, สถานีธนบุรี, สถานีเชียงราก และ สถานีเชียงใหม่ รวม 260,000 คน ซึ่งในจำนวนดังกล่าวผ่านเกณฑ์พิจารณาจากธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) จำนวน 130,000 ซึ่งเกินกว่าจำนวนที่อยู่อาศัยดำเนินการในระยะที่ 1 ดังนั้นจึงร่วมกับสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ในการเข้ามาดำเนินการจับสลาก จำนวน 5,000 ยูนิตในพื้นที่ 4 แห่ง
อย่างไรก็ตามขั้นตอนหลังจากนี้ อทส.จะจัดหาผู้รับจ้างออกแบบรายละเอียด จัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) พร้อมทั้งจัดร่างเอกสารประกวดราคา (TOR) คาดว่า จะได้ตัวผู้รับจ้างภายในช่วงปลาย มิ.ย.นี้ โดยคาดว่า จะเสนอโครงการไปยังที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติภายใน ต.ค. 68 ก่อนจะเริ่มดำเนินการจับสลากเฟสแรกได้ประมาณ พ.ย. 68 และเริ่มจะก่อสร้างทันที โดยจะใช้งบประมาณก่อสร้างกว่า 6,000-7,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ตั้งเป้าหมายไว้ว่า จะเปิดให้เข้าพักอาศัยได้ในช่วงปลายปี 69
…
ขณะที่โครงการบ้านเพื่อคนไทย เฟส 2 และ 3 จะดำเนินการต่อเนื่องจากเฟสแรกต่อไป ส่วนผู้ที่ไม่ได้รับสิทธิ์จากการจับสลากในเฟสแรก จะยังคงมีสิทธิ์อยู่ในระบบ เพื่อเข้าร่วมในโครงการเฟสที่ 2 และ 3 ต่อไป ทั้งนี้ รูปแบบและขั้นตอนการจับสลากจะถูกออกแบบร่วมกันระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ในฐานะเจ้าของที่ดิน อทส. ซึ่งเป็นหน่วยงานดำเนินโครงการ และสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เพื่อยืนยันถึงกระบวนการที่มีความโปร่งใส
สำหรับการเตรียมความพร้อมด้านการเงินนั้น ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ได้ยืนยันถึงความพร้อมในการสนับสนุนสินเชื่อสำหรับโครงการนี้อย่างเต็มที่ ทั้งในส่วนของสินเชื่อเพื่อผู้ประกอบการ และสินเชื่อสำหรับผู้ซื้อหรือผู้เช่า โดยมีวงเงินที่เพียงพอต่อความต้องการของผู้เข้าร่วมโครงการทั้งหมด คาดว่า วงเงินสินเชื่อที่เตรียมไว้ ธอส. มีสภาพคล่องเพียงพอ และมีความแข็งแกร่งทางการเงิน
ด้านพันโท หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า เบื้องต้นรูปแบบการจับสลาก อาจจะใช้วิธีการเช่นเดียวกันกับการคัดเลือกตัวแทนจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล คือ การสุ่มรายชื่อด้วยระบบอัตโนมัติ ซึ่งมีความแม่นยำ และโปร่งใส โดยจะให้ตัวแทนเป็นผู้กดปุ่ม ส่วนจะใช้การจับสลากแบบการออกสลากฯ หรือหมุนวงล้อหรือไม่นั้น จะต้องหารือกันอีกครั้ง แต่คาดว่า จะได้ข้อสรุปก่อนเสนอ ครม. อย่างแน่นอน.