“บิ๊กเต่า” เผยพบอีกกว่า 20 บัญชี ส่งตรวจสอบต่อ พบเงินวัด-เงินแย้มเหลือแค่หลักล้าน ยันยังไม่ออกหมายจับเพิ่ม หากหลักฐานสาวไปถึงใครดำเนินคดีไม่มีละเว้น รับมีมาเฟียในวัด

วันที่ 19 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พ.ต.อ.จำนาญ จันทร์เทศ ผกก.5 บก.ปปป. พ.ต.อ.ภัทราวุธ อ่อนช่วย ผกก.5 บก.ป. พร้อมบูรณาการกับเจ้าหน้าที่ สตง. ปปง. ปปท. ปปช. สำนักพระพุทธศาสนาและตัวแทนเจ้าหน้าที่ธนาคาร 4 แห่ง เข้าตรวจสอบบัญชีของวัดไร่ขิง และบัญชีส่วนตัวของอดีตเจ้าอาวาส หรือนายแย้ม จันทร์กรุงเก่า อายุ 70 ปี อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ยักยอกเงินวัดไปยุ่งเกี่ยวกับการพนันออนไลน์

ต่อมาเวลา 12.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยความคืบหน้าว่า ขณะนี้ได้ให้ประสานความร่วมมือจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้ามาร่วมกันตรวจสอบเส้นทางการเงิน เพื่อดูระบบของบัญชีวัดในการเบิกจ่ายเงินต่างๆ เป็นบัญชีที่ส่งรายงานไปยังสำนักพระพุทธศาสนา

จากการตรวจสอบบัญชีของวัดไร่ขิง และบัญชีส่วนตัวของอดีตเจ้าอาวาส รวม 49 บัญชี ในจำนวนบัญชีทั้งหมดนี้ ตำรวจ บก.ปปป.เคยตรวจสอบมาแล้วกว่า 20 บัญชี มีเพิ่มมาใหม่อีก 20 กว่าบัญชี ซ้ำในบัญชีทั้งหมดนี้ยังพบว่ามี 6 บัญชีต้องสงสัย เพราะไม่มีข้อมูลความเคลื่อนไหวของบัญชี จากนี้จะให้ ปปง. และ สตง. ตรวจสอบอย่างละเอียดต่อไป เพื่อให้ได้ความชัดเจนของเส้นเงินทั้งหมด ก่อนนำไปประกอบสำนวนคดีเอาผิดกับผู้ที่ทุจริตทุกคน

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าบัญชีของวัดมีรายได้จากเงินบริจาค จัดงานบุญ ขายอาหารปลา ตู้บริจาค ให้เช่าที่วัดและจำหน่ายวัตถุมงคล เบื้องต้นพบยอดเหลือในบัญชีหลักล้านบาท ส่วนบัญชีของอดีตเจ้าอาวาสพบมี 4 บัญชี ยอดเงินเหลือหลักล้านเช่นกัน บางบัญชีพบว่าเป็นยอดเงินเข้าบัญชีส่วนตัวของอดีตเจ้าอาวาสโดยตรง จะต้องตรวจสอบอีกที นี่แค่เป็นยอดเงินเบื้องต้น ยังไม่นิ่ง ต้องรอให้เจ้าหน้าที่ธนาคารทั้ง 4 แห่ง สรุปยอดรวมมาอีกที

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวอีกว่า วันนี้ได้เรียกผู้เกี่ยวข้องกับการเงินของวัดกว่า 10 คน ทั้งพระสงฆ์ ไวยาวัจกร กรรมการวัดและชาวบ้าน มาสอบถามและให้ชี้แจงถึงที่มาที่ไปของเงินแต่ละยอดย้อนหลังไป 5 ปี ที่เกี่ยวข้องกับวัดและอดีตเจ้าอาวาส ซึ่งทุกคนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ส่วนจะออกหมายจับใครเพิ่มเติม ขณะนี้ยังตอบไม่ได้ ต้องรอสรุปว่าหลักฐานสาวไปถึงใครบ้าง ถ้าไปถึงก็จะดำเนินคดีโดยไม่มีการละเว้น

รอง ผบช.ก. กล่าวถึงกรณีมาเฟียวัดไร่ขิงว่า ทุกคนรู้แล้วว่าใครที่มีอำนาจในวัดช่วงที่อดีตเจ้าคุณแย้มเป็นเจ้าอาวาสอยู่ จากนี้การสืบสวนสอบสวน จะเอาหลักฐานนำไม่ได้เอาความคิดนำ ยืนยันว่าจะตรวจสอบทุกมิติเพื่อให้วัดไร่ขิงเดินหน้าต่อไปได้ อยากบอกกับพุทธศาสนิกชนว่า หลวงพ่อวัดไร่ขิง ที่ลอยมากับน้ำกับอดีตเจ้าอาวาสเป็นคนละคน อย่าไปเหมารวมเพราะวัดต้องเดินหน้าต่อ

รอง ผบช.ก. กล่าวต่ออีกว่า ส่วนหญิงคนสนิทของนายแย้ม ได้เรียกมาสอบปากคำทั้งหมดแล้ว ลักษณะเป็นการเรียกมาให้ปากคำเบื้องต้น จะต้องมีการตรวจสอบพยานหลักฐานอื่นเพิ่มเติมมาประกอบกันด้วย เนื่องจากยังมีหลายประเด็นที่พยานและ น.ส.อรัญญาวรรณ ที่ถูกจับดำเนินคดีไปแล้ว ยังให้การไม่ชัดเจน แต่มีการรับสารภาพบางส่วน แต่บางส่วนยังไม่เปิดเผยข้อเท็จจริงออกมา ยืนยันว่าการดำเนินการทั้งหมดจะให้ความเป็นธรรมกับทุกคน