เจ้าหน้าที่ตำรวจปูพรมค้นบ้าน 4 ผู้ต้องหา ที่ถูกออกหมายจับคดีร่วมฆ่า “ดีเจเตเต้” อายัดรถ-หลักฐานบางอย่างสอบเพิ่ม ขณะที่ครอบครัวตั้งศพสวดคืนแรก โดยไม่มีพิธีรดน้ำศพ
ความคืบหน้า การเสียชีวิตของ นายวราพงษ์ ขุนศรีจตุรงค์ หรือดีเจเตเต้ อายุ 33 ปี ชาว ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งไปทำงานเป็นดีเจเปิดเพลงในผับแห่งหนึ่งใน อ.เมืองกาญจนบุรี จากนั้นถูกคนร้ายอุ้มขึ้นรถหายสาบสูญตั้งแต่เวลา 03.53 น. วันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา ก่อนที่เมื่อวานนี้ชาวบ้านไปหาของป่าเจอร่างขึ้นอืดอยู่ในพื้นที่ฝึก รด.เขาชนไก่ สภาพถูกพันธนาการ มัดมือไพล่หลัง จ่อยิงหัว 3 นัด พบรอยล้อรถหลายแห่ง คาดคนร้ายฆ่ามาจากที่อื่นแล้วนำศพมาทิ้งอำพราง ตำรวจมุ่งปมชู้สาว หลังผู้ตายไปพัวพันสาวของนักค้ายานรกที่หนีหมายจับอยู่ฝั่งชายแดนเพื่อนบ้าน ถึงขั้นส่งลูกน้องไปตบหน้ามาแล้ว ล่าสุดออกหมายจับ 5 ทีมสังหาร จับได้แล้ว 1 เร่งออกหมายจับเพิ่ม ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 19 พ.ค. 68 ทางครอบครัวได้เคลื่อนร่างของ นายวราพงษ์ จากสถาบันนิติเวชฯ มาที่บ้านใน ต.หนองกุ่ม อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี โดยทางครอบครัวกำหนดตั้งศพสวดพระอภิธรรม เป็นเวลา 3 คืน และจะทำการฌาปนกิจศพในวันพฤหัสบดีที่ 22 พ.ค. 68 ที่เมรุวัดหนองกระทุ่ม
โดยทางญาติไม่ได้มีพิธีรดน้ำแต่อย่างใด เนื่องจากเสียชีวิตมาแล้วหลายวัน ทางญาติจึงนำร่างใส่โลงเย็น และจะตั้งสวดในคืนนี้เป็นคืนแรก ขณะที่นางสมจิตร ขุนศรีจตุรงค์ น้าสาวของดีเจเตเต้ จุดธูปบอกกล่าวให้หลานกลับบ้าน โดยญาติร่วมกันนำดอกไม้ใส่ไปในโลงศพ โดยบรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า

…
ทั้งนี้ นายวิเชียร พ่อของดีเจเตเต้ ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ “เปิดปากกับภาคภูมิ” ทางไทยรัฐทีวีช่อง 32 ว่า เราจะตั้งศพน้องไว้ที่บ้าน เพราะตัวผมเองเป็นคนกาญจนบุรีตั้งแต่กำเนิด ผลชันสูตรอย่างละเอียดต้องรออีก 45 วัน ส่วนเบื้องต้นคือ มีรอยกระสุนปืนทำลายสมอง ด้านคดีอยากให้ทางเจ้าหน้าที่สืบให้ถึงผู้บงการให้ได้ เพราะผู้ต้องหาทั้งหมดไม่ได้มีความสัมพันธ์กับลูกชาย หรือรู้จักกันมาก่อนเลย จึงไม่น่าที่จะทำการอย่างอุกอาจ บุกอุ้มกลางเมืองขนาดนี้ และพาไปทำร้ายจนเสียชีวิต
ซึ่งหากเป็นเรื่องชู้สาวจริงๆ เขาทำงานด้านนี้อยู่แล้ว ตนมองว่าเกินกว่าเหตุที่จะต้องวางแผนเป็นขั้นตอนเพื่ออุ้มฆ่า ถึงขั้นยิงกันตายมันรุนแรงไป ซึ่งยอมรับว่ามีความกังวลที่ตัวของผู้บงการอาจจะไม่ได้อยู่ในประเทศไทย แต่เราเป็นพ่อก็ต้องหาความจริงว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูกเรา กลัวแต่ก็ต้องสู้ อยู่ที่ 5 คนนี้ว่าจะซัดทอดใคร หรือใครเป็นคนบงการ ในมุมของคนเป็นพ่อ เจอศพลูกยังดีกว่าที่ลูกจะหายสาบสูญไปเลย ทั้งนี้ก็ต้องพึ่งเจ้าหน้าที่ในการติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี

อีกด้านตั้งแต่ช่วงสายวันนี้ ชุดสืบสวน ภ.จว.กาญจนบุรี และสืบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี สนธิกำลัง ลงพื้นที่ 4 จุด จุดแรกและจุดที่สอง ร.ต.ท.นันทวัฒน์ วสุชาติวัฒนะ รอง สว.สืบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี นำหมายค้นไปที่บ้านหลังหนึ่งใน ต.วังด้ง อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นบ้านของ นายณรงค์เดช อ่อนละมูล หรือ หนึ่ง ซึ่งไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย ยึดโทรศัพท์มือถือ 1 ซิม 1 สมุดจดรายชื่อ 1 เล่ม จุดที่สอง ค้นบ้านของผู้ต้องสงสัยชี้เป้าในพื้นที่ ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี จุดที่สาม ตำรวจสืบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี พร้อมสืบจังหวัดกาญจนบุรี ไปค้นเพิงพักแถวหมู่บ้านหนองหอย ยึดรถกระบะโฟลวีล ยี่ห้อมิซซูบิชิ ไททัน สีดำ 1 คัน
และ จุดที่ 4 พ.ต.อ.มานะ สำราญวงศ์ ผกก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี พร้อมตำรวจสืบสวนจังหวัดกาญจนบุรี ไปที่อู่ซ่อมรถแห่งหนึ่ง ในพื้นที่บ้านท่าพระเนียด ต.แก่งเสี้ยน อ.เมืองกาญจนบุรี ทำการตรวจยึดรถกระบะเชฟโรเล็ตสีขาว เลขทะเบียน 2 ฒห 8148 กทม. โดยรถคันนี้เป็นรถต้องสงสัยว่าเป็นพาหนะไปรับตัวนายเหลือบ ที่ริมถนนหน้าเขตอุตสาหกรรมราชบุรี โดยทีมตรวจค้นได้ทำการบันทึกตรวจยึดวัตถุพยานที่ตรวจยึดส่งพนักงารสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี เพื่อนำไปตรวจสอบความเกี่ยวข้องกับคดีอุ้มฆ่าดีเจเตเต้หรือไม่


…