ผบก.น.5 คาดจะได้ตัววันนี้ 6 ผู้ต้องหาบุกขโมย “บุหรี่ไฟฟ้า” โกดังของกลาง กรมศุลกากร ถอยรถชนเจ้าหน้าที่ รปภ. เสียชีวิต พบรถที่ใช้ก่อเหตุถูกจอดแถววัดย่านพระราม 3

จากกรณี “กลุ่มชายฉกรรจ์” บุกขโมย “บุหรี่ไฟฟ้า” ภายในตู้คอนเทนเนอร์ของกลางที่เจ้าหน้าที่กรมศุลกากรตรวจยึดไว้ “ลุง รปภ.” ตามจับแต่กลับถูกคนร้ายถอยรถชนเสียชีวิต ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ กำลังเร่งล่าตัว ดังที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น (ล่าตัวกลุ่มชายฉกรรจ์ บุกขโมย “บุหรี่ไฟฟ้า” โกดังของกลาง รปภ. ตามจับถูกถอยรถชนดับ)

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. 68 ทางครอบครัวและญาติ เดินทางมารับศพนายบุญนาค สวัสสุข ที่สถาบันนิติเวชโรงพยาบาลจุฬาฯ เพื่อนำไปประกอบพิธีทางศาสนา ที่วัดคลองเตยนอก บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า ญาติได้โผเข้ากอดร่างไร้วิญญาณของนายบุญนาค โดยเฉพาะแม่นายบุญนาคถึงกับร่ำไห้อย่างเสียใจ

โดยหลานสาวและลูกชายของผู้ตายเปิดใจว่า เมื่อคืนนี้ผู้ตายถูกคนร้ายถอยหลังมาชนจนเสียชีวิต ซึ่งเชื่อว่าเป็นการจงใจจะฆ่าผู้ตาย ถือเป็นความสูญเสียของครอบครัวเพราะนายบุญนาคเป็นเสาหลักของบ้าน ทั้งนี้ตนยังคาใจการทำงานของตำรวจที่ถึงแม้ว่าจะสามารถจับผู้ต้องสงสัยได้ 1 คน แต่ตำรวจกลับปล่อยตัวไป อ้างว่าไม่มีหลักฐานดำเนินคดี ทั้งที่ตนได้พาพยานไปชี้ตัวถึง 3 คนและยืนยันว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุก็คือคนในชุมชนที่คุ้นหน้าคุ้นตาและน่าจะเป็นลูกน้องของคนมีสี จึงเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการทำงานของตำรวจ

ต่อมา พลตำรวจตรีวิทวัฒน์ ชินคำ ผบก.น.5 ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนกรณีดังกล่าวว่า คนร้ายมีคน 6 คน ที่เข้าไปก่อเหตุขโมยทรัพย์สินของกรมศุลกากร ทำให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่เข้าไปห้ามและตามคนร้าย ถูกถอยรถมาชนจนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

จากการสืบสวนตอนนี้ตำรวจทั้ง สืบ บชน. สืบนครบาล 5 สืบ สน.ท่าเรือ กำลังตรวจสอบกล้องและเส้นทางการหลบหนี คาดว่าวันนี้จะได้ตัวของผู้ก่อเหตุทั้ง 6 คน และมีบางคนพบประวัติลักทรัพย์อีกด้วย แต่สำหรับคดีนี้ ผู้ต้องหาทั้ง 6 มีความผิดในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่น, ร่วมกันปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนในเคหสถานสถานที่ราชการ, ร่วมกันบุกรุก เบื้องต้น ตำรวจติดตามรถของกลางที่ใช้ก่อเหตุขนของ และชนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเสียชีวิตได้ที่วัดแห่งหนึ่งย่านพระราม 3

พลตำรวจตรีวิทวัฒน์ เผยอีกว่า ทางกรมศุลกากรมาเช่าพื้นที่ของการท่าเรือ ในการเก็บของกลางมีตู้คอนเทนเนอร์ทั้งหมด 55 ตู้ เก็บของกลางทั้งเอกสาร และสินค้าอื่นๆ แต่เมื่อคืนที่ผู้ก่อเหตุเข้ามาขโมยได้มีการตัดกุญแจตู้คอนเทนเนอร์ทั้งหมด 5 ตู้ แบ่งเป็น ตู้เอกสาร 2 ตู้ ตู้สินค้าอื่น 2 ตู้ และตู้บุหรี่ไฟฟ้า 1 ตู้ ซึ่งบุหรี่ไฟฟ้าเป็นของกลางจากหลายพื้นที่ที่กวาดล้าง และนำมาเก็บรวมไว้ในตู้คอนเทนเนอร์ดังกล่าวเป็นหลักฐานระหว่างการพิจารณาคดี

ส่วนเมื่อคืนที่เชิญตัวนายเบิร์ด เจ้าของรถที่ใช้ในการก่อเหตุมาเบื้องต้นให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับตำรวจถึงพฤติการณ์ของกลุ่มผู้ต้องหา ส่วนจะมีความผิดหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการตรวจสอบ

ขณะที่นายเฉลิมศักดิ์ บัวแก้ว ผอ.ส่วนของกลาง กองสืบสวนปราบปราม กรมศุลกากร เผยว่า ตู้คอนเทนเนอร์ที่เช่าพื้นที่ท่าเรือเก็บไว้ ไม่ได้มีการแปะป้ายบ่งบอกว่าภายในตู้เป็นสินค้าอะไรเพื่อป้องกันการขโมย แต่เหตุการณ์นี้ถือเป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้น และมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้บาดเจ็บจนเสียชีวิต และบุหรี่ไฟฟ้าที่อยู่ตู้คอนเทนเนอร์มีประมาณ 200,000 ชิ้น

ส่วนมองว่าจะเป็นการชี้เป้าหรือไม่ บอกว่าตามข้อเท็จจริง คือ ผู้ก่อเหตุสุ่มเปิดห้าตู้คอนเทนเนอร์ แต่ก็ต้องอยู่ระหว่างการตรวจสอบของตำรวจว่าจะเป็นการชี้เป้าหรือไม่ ตนให้น้ำหนัก 50% และทางกรมศุลกากร ได้แสดงความเสียใจที่เจ้าหน้าที่ รปภ. เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ ไปช่วยเหลือในการสกัดจับคนร้ายที่เข้ามาขโมยของ

นอกจากนี้ตำรวจสืบนครบาลได้คุมตัว นายเจ เพื่อนในไอจีคนก่อเหตุ โดยเล่าว่า เมื่อคืนตนเองอยู่บ้าน แต่นายจีมาหาตนเองที่บ้าน พร้อมกับเพื่อนอีก 2 คน บอกขอฝากบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งตนไม่ได้ถามว่าเอามาจากไหน พอนายจีวางของกลางเสร็จ ก็ออกไปจากบ้านโดยไม่บอกว่าออกไปไหนซึ่งตนก็ไม่ได้ถามและไม่ได้เอะใจว่าเพื่อนจะไปขโมยบุหรี่ไฟฟ้ามาหรือไม่

เบื้องต้นตำรวจจะสอบปากคำนายเจ รวมถึงอาจแจ้งข้อหาในการช่วยสนับสนุนอำพรางของกลาง.