“อัครแสนคีรี โล่ห์วีระ” ขอกลางสภาฯ อย่าโยนบาปให้ชาวไร่ชาวนา ทำฝุ่นพิษพุ่ง ชี้เขาก็มีหัวใจ ชี้ยังมีปัจจัยอื่นพ่วง เช่น การใช้รถในเมืองมากเกินไป ด้าน “สส.ปิยรัฐ” โชว์ภาพ ค่าฝุ่นที่รัฐสภา ฝากนายกฯ ปรับโครงสร้างตำรวจนครบาล ดูแลการจราจรแก้ PM2.5

วันที่ 23 มกราคม 2568 ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายอัครแสนคีรี โล่ห์วีระ สส.ชัยภูมิ เขต 7 พรรคกล้าธรรม หารือสภาผู้แทนราษฎร ถึงประเด็นการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 ว่า เราต้องยอมรับว่า ที่ผ่านมา ประเทศไทยประสบวิกฤตสภาพอากาศย่ำแย่ และส่งผลกระทบโดยตรงต่อทางเดินหายใจของพี่น้องประชาชน ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดมลพิษ PM 2.5 มีหลายปัจจัย ทั้งจากรถยนต์โดยสาร และกระบวนการผลิตจากโรงงานอุตสาหกรรม การเผาพื้นที่เพาะปลูกสินค้าทางการเกษตร โดยเฉพาะช่วงนี้ที่เป็นฤดูกาลเก็บเกี่ยวอ้อย จึงส่งผลให้มีการเผาเศษวัสดุทางการเกษตร เพื่อลดต้นทุนการเก็บเกี่ยว

นายอัครแสนคีรี ระบุว่า ตนได้ติดตามการแก้ไขปัญหาของภาครัฐ ทราบว่าหลายหน่วยงานได้พยายามเร่งแก้ไขปัญหานี้ เช่น การประกาศกฎกระทรวงของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่องมาตรการการบริหารจัดการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 ภาคการเกษตร และการถ่ายทอดองค์ความรู้การนำเศษวัสดุเหลือใช้ เช่น ใบอ้อย มาแปรรูป และส่งเสริมให้มีรายได้เพิ่มขึ้น เช่น การอัดใบอ้อย และขายให้โรงงานไฟฟ้า

จากที่ตนได้พบปะพี่น้องเกษตรกร ทราบว่าไม่มีใครอยากเผาแปลงเกษตร ยิ่งในปัจจุบันเกษตรกรสามารถขายใบอ้อยให้โรงงานได้กว่าตันละ 900 บาท ยิ่งเป็นแรงจูงใจที่จะช่วยลดการเผา แต่อย่างไรก็ตามกระบวนการตัดใบอ้อย และบีบอัดก่อนขายให้โรงไฟฟ้า มีกระบวนการที่ต้องใช้อุปกรณ์จำนวนมาก และมีราคาสูง เกษตรกรขาดทุนทรัพย์

ตนจึงอยากฝากให้รัฐบาล และกระทรวงมหาดไทย จัดสรรงบประมาณ เพื่ออุดหนุนให้องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีการเพาะปลูกอ้อยจำนวนมาก มีงบประมาณซื้ออุปกรณ์ เพื่อจัดสรรและบริการให้กับเกษตรกร ขณะที่หน่วยงานอื่น เช่น กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงสาธารณสุข ควรเร่งประชาสัมพันธ์ถึงปัญหาของฝุ่นพิษ

“สุดท้ายแล้ว การเผาแปลงเกษตร เป็นเพียงปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดฝุ่น PM 2.5 ยังมีปัจจัยอื่นเช่น การใช้รถ ใช้ถนนที่มากเกินไปในตัวเมือง รวมถึงการผลิตจากโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งรัฐบาลควรเร่งแก้ไขปัญหาเหล่านี้ ไม่เช่นนั้น ภาคการเกษตรจะถูกมองว่าเป็นวายร้าย และอาชีพเกษตรกรจะถูกด้อยค่า ทั้งที่เกษตรกรในชนบทเหล่านี้ เขาก็มีหัวใจเหมือนกัน เป็นคนไทยเหมือนกัน” นายอัครแสนคีรี กล่าว

“สส.โตโต้” โชว์ภาพ ค่าฝุ่นที่รัฐสภา ฝากนายกฯ ดูแลการจราจรแก้ PM2.5

ด้านนายปิยรัฐ จงเทพ สส.กทม. พรรคประชาชน กล่าวระหว่างการหารือถึงปัญหาฝุ่น PM2.5 ว่า หลังจากใช้เครื่องวัดฝุ่นละออง PM2.5 บริเวณอาคารรัฐสภา มีค่าฝุ่นสูงถึง 174 มคก./ลบ.ม. ถือเป็นสัญลักษณ์ชัดเจนว่าโลกกำลังเผชิญอุบัติภัยทางอากาศหรือวิกฤต พร้อมฝากไปถึงประชาชนที่ใช้กิจกรรมในพื้นที่โล่งแจ้งให้ระมัดระวัง

นายปิยรัฐ กล่าวว่า ปัญหาฝุ่น PM2.5 ในกรุงเทพมหานครเกิดจากหลายสาเหตุ 1 ในนั้นคือปัญหาการจราจร จึงอยากหารือว่าตอนนี้ปัญหาการจราจรที่กระทบต่อการใช้ชีวิตของประชาชน คือการสัญจรเดินทาง เพราะหลายคนต้องติดอยู่บนถนนหลายชั่วโมง เพราะการใช้รถสาธารณะที่ส่วนใหญ่เป็นเครื่องยนต์สันดาปและพ้นมลพิษออกมา ถึงขนาดที่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ออกมาพูดถึงการจัดการปัญหาจราจรในกทม. ต้องให้สำนักการจราจรอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกทม. จึงจะสามารถแก้ปัญหาจราจรได้

จึงอยากหารือถึงนายกรัฐมนตรี ถึงแนวทางการปฏิรูปโครงสร้างการบริหารงานตำรวจนครบาลให้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกทม. หรือประสานงานกับกทม.ได้หรือไม่ และอีก 1 คำถาม ถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะมีมาตรการอย่างไรในการดูแลการจราจรกับกทม.ให้แก้ปัญหาเรื่องรถติดและมลภาวะได้อย่างไร