เจ้าของร้านอาหารที่ปราจีนบุรี ขอโทษสังคม ยอมรับฟิวส์ขาด มองตำรวจทำเกินกว่าเหตุ หลังบุกจับปืนวงกินเลี้ยง “ส.อบจ.” แต่เพราะเป็น “พ่อ” ที่ห่วงครอบครัว

วันที่ 7 ก.พ. 68 จากกรณีชุดปฏิบัติการพิเศษ ตำรวจปราจีนบุรี บุกจับปืนในวงงานเลี้ยง กลุ่ม สจ.ปราจีนบุรี ตรวจยึดปืน 6 กระบอก หลังมีชาวบ้านแจ้ง เพราะกลัวจะมีคดีซ้ำรอย ซึ่งนาทีที่เจ้าหน้าที่บุกเข้าไปในร้าน ทำให้เกิดปะทะคารมกันขึ้นเล็กน้อย

โดยนายสมบัติ สิทธิมงคล เจ้าของร้านอาหาร กล่าวหลังมีการจับกุมว่า ที่นี่เป็นร้านอาหาร คณะ สจ.ปราจีนบุรี ที่ได้รับการเลือกตั้งนัดกันมาทานข้าว ซึ่งปกติ สจ. ก็ต้องมีผู้ติดตาม เราก็สั่งปิดร้าน เขากินเสร็จค่อยเปิดใหม่ สักพักเด็กในร้านวิ่งมาบอกว่าตำรวจมา ตนเปิดประตูเจอเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ปืนจี้ขอตรวจค้น ซึ่งมองว่าทำเกินกว่าเหตุ เนื่องจากร้านอาหารเป็นสถานที่สาธารณะ ก็ถามเขาว่ามีหมายไหม แต่เขาบอกว่า ไม่ต้องมีหมายเพราะเป็นพื้นที่สาธารณะ โดยเชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีใบสั่งแน่นอน เพราะไม่เชื่อว่าจู่ๆ ตำรวจจะขับรถผ่านมา แล้วขอตรวจค้น

นายสมบัติ บอกด้วยว่า ตัวเองเป็นกำนัน และ สจ. มาหลายปี ไม่เคยเห็นเหตุการณ์ที่ตำรวจใช้อาวุธสั่งทุกคนให้นั่ง มันเป็นไปตามยุทธวิธีตรงไหน ซ้ำยังเอาปืนจี้ลูกตนที่เป็นผู้หญิง ถ้าบังเอิญว่าร้านยังเปิดอยู่ แล้วมีลูกค้าคนอื่น จะเป็นอย่างไร ตนทำมาหากิน ใครจะรับผิดชอบ ซึ่งตนมีหลักฐาน 

ซึ่งมีรายงานว่า ทางเจ้าของร้านได้นำหลักฐานไปลงบันทึกประจำวันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว

ต่อมา นายสมบัติ ได้ให้สัมภาษณ์ โดยขอโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้น โดยระบุว่า ตอนนี้ตนไม่คิดจะฟ้องร้อง ตั้งแต่เมื่อวานนี้ผมไปที่ สภ.ประจันตคาม เพื่อไปลงบันทึกประจำวันไว้ ว่าที่ร้านเกิดเหตุการณ์แบบนี้ แล้วเราก็รอปรึกษาผู้รู้ หลังจากนี้ผมรู้แล้วว่าถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ในโลกโซเชียลเผยแพร่ออกไป ทัวร์ลงแน่นอน ตำหนิผมแน่นอน เพราะคนได้รับข่าวสาร เห็นแค่มุมเดียว พฤติกรรมของผมที่ออกไปเมื่อวานนี้เพราะเกิดจากอารมณ์ ตนขาดสติ โมโห ในฐานะของความเป็นพ่อรับไม่ได้ที่ลูกถูกปืนจี้ ร้านผมลูกค้าก็น้อยอยู่แล้ว เราดีใจที่จะมีลูกค้ามาอุดหนุน เมื่อเหตุการณ์แบบนี้สิ่งแรกอยากจะฝากตำรวจว่า ตำรวจปฏิบัติงานต้องมีวิธีการที่จะไม่ให้ผลกระทบกับผู้ประกอบการ หากมีการข่าวแจ้งว่า มีผู้ต้องสงสัยนำพาอาวุธปืนเข้ามาในร้าน ควรมีวิธีการที่ดีกว่านี้หรือไม่

นายสมบัติ บอกด้วยว่า ตนไม่ได้สวมบท สจ. แล้ว เลิกมาแปดปี และไม่เคยเป็นหัวคะแนนให้ใคร การเมืองตนไม่ยุ่ง ตนทำมาหากินอย่างเดียว เมื่อวานผมเสียใจจริงๆ ที่เอาปืนจี้ลูกสะใภ้ผมซึ่งกำลังท้องอ่อน เราพยายามประคับประคอง เพราะกลัวหลุด เป็นหลานคนแรก ซ้ำยังเอาปืนไปจี้กระทั่งคนทำครัว แบบนี้เกินกว่าเหตุหรือไม่