เมียวดีระส่ำ หลังไทยตัดไฟ-ระงับส่งออกน้ำมันข้ามแดน โรงพยาบาลเมียวดีขาดทั้งไฟฟ้าและออกซิเจน การช่วยเหลือผู้ป่วย เจ้าหน้าที่ต้องยกเครื่องปั่นไฟขึ้น รพ. ขณะที่ปั๊มน้ำมันโกลาหล คนล้นหลาม ต้องเอาทหาร BGF คอยจัดระเบียบ รักษาความสงบเรียบร้อย
เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา ตรงข้ามบ้านริมเมย ตำบลท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก ถึงสถานการณ์ผลกระทบจากมาตรการตัดไฟฟ้า สัญญาณอินเทอร์เน็ต และน้ำมันเชื้อเพลิงในพื้นที่ จ.เมียวดี 2 จุด โดยเฉพาะบริเวณบ้านห้วยม่วง สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 1 ได้รับผลกระทบมากที่สุด

นอกจากบริเวณสะพานที่สื่อถึงความเป็นความตาย ในบรรยากาศที่โรงพยาบาลเมียวดี ซึ่งเป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ เกิดความโกลาหลกับผู้ป่วยและผู้ใช้บริการกับโรงพยาบาล ปัญหาไฟฟ้าดับและขาดแคลนออกซิเจนอย่างหนัก จนทำให้ผู้บริหารโรงพยาบาล ฝ่ายปกครอง ฝ่ายสาธารณสุขจังหวัด ฝ่ายทหารเมียนมา ทหาร BGF หรือกองกำลังพิทักษ์ชายแดน ได้มีการประชุมฉุกเฉินเพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนออกซิเจนอย่างหนัก และไม่มีไฟฟ้าใช้
…

ขณะที่ผู้สื่อข่าวอยู่ในโรงพยาบาลเมียวดี ทางเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเมียวดีกำลังยกเครื่องปั่นไฟฟ้าไปที่โรงพยาบาลทันที นอกจากบรรยากาศในโรงพยาบาลที่ไม่มีไฟฟ้าใช้แล้ว ยังมีชาวเมียนมานำผู้ป่วยไปส่งที่โรงพยาบาลเมียวดี ด้วยสีหน้าที่วิตกกับการขาดแคลนออกซิเจน

นายตูเหล่ง เหม่งทุน ประธานตัวแทนสมัชชาประชาชน ที่มีส่วนร่วมในการบรรจุก๊าซออกซิเจน และส่งไปช่วยเหลือโรงพยาบาลเมียวดีโดยตลอด กล่าวว่า การที่ประเทศไทยตัดกระแสไฟฟ้า ส่งผลกระทบต่อชาวเมียนมาอย่างรุนแรง ทำให้โรงพยาบาลไม่มีไฟฟ้าใช้ และไม่มีออกซิเจนใช้ ซึ่งอันตรายต่อผู้ป่วย

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ชาวเมียนมาบนถนนสายต่างๆ ยังคงใช้ชีวิตประจำวัน แต่ร้านค้าหลายร้านมีทั้งปิดและเปิดบริการ เพราะไม่มีไฟฟ้าใช้ตามความจำเป็น แต่ที่น่าห่วงมากอีกแห่ง บริเวณหน้าสถานีจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงที่ปั๊ม ปตท. เต็มไปด้วยประชาชนที่นำรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไปเติมน้ำมันกัน


…
ทางปั๊มต้องขอให้ทหาร BGF ช่วยจัดระเบียบเข้าไปเติมน้ำมันเป็นรอบ ๆ แต่มีข้อจำกัดในการเติมน้ำมันเชื้อเพลิง โดยรถจักรยานยนต์จำกัดเติมได้คันละ 2,500 จ๊าต (40.38 บาท) และรถยนต์จำกัดคันละ 20,000-30,000 จ๊าต (321.51 – 482.27 บาท)