KUBET – รทสช. จี้ “สส.ปูอัด” ลาออก แนะสังกัดปัจจุบัน-ผู้บริหารอดีตพรรคก้าวไกลออกมาขอโทษ

รองโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ จี้ “ปูอัด ไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์” ลาออกจาก สส. แนะพรรคการเมืองที่สังกัดในปัจจุบันและผู้บริหารอดีตพรรคก้าวไกล ออกมาขอโทษ พร้อมเรียกร้องเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง

วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2568 ร.ต.อ.หญิงอัยรดา บำรุงรักษ์ รองโฆษกและผู้ช่วยผู้อำนวยการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เปิดเผยถึงกรณีศาลเชียงใหม่ออกหมายจับ นายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) กรุงเทพมหานคร พรรคไทยก้าวหน้า ถูกกล่าวหาในคดีข่มขืนกระทำชำเรานักท่องเที่ยวสาวชาวไต้หวัน ว่า ตนในฐานะตัวแทนพรรครวมไทยสร้างชาติ ขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง เพราะความยุติธรรมที่ล่าช้าก็คือความไม่ยุติธรรม

ทั้งนี้ ขอให้นายไชยามพวาน แสดงความรับผิดชอบ ด้วยการลาออก ไม่ใช้เอกสิทธิ์ สส. เพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ในฐานะประชาชนคนหนึ่ง และพรรคการเมืองในสังกัดปัจจุบันควรแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ด้วยการออกมาแสดงจุดยืนและขอโทษประชาชน

ร.ต.อ.หญิงอัยรดา ระบุต่อไปว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หากยึดตามสโลแกนที่ว่า “พรรคเลือกคน ประชาชนเลือกพรรค” สะท้อนถึงปัญหาระบบการคัดสรรผู้สมัคร สส. ของต้นสังกัดเดิม จะได้เห็นว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่บุคลากรของพรรคเดิมมีประวัติและการกระทำด่างพร้อย ดังนั้น ต่อไปนี้อยากฝากพี่น้องประชาชนอย่าเลือกคนลงสมัคร สส. ที่พรรคอย่างเดียว ควรพิจารณาถึงผลงาน ประวัติความเป็นมาของผู้สมัครเป็นหลัก ดังนั้น คำที่ว่าพรรคเลือกคน ประชาชนเลือกพรรค จึงไม่สามารถใช้กับพรรคการเมืองในเมืองไทยได้อีกแล้ว เมื่อเกิดเหตุแบบนี้ซ้ำซากกับบุคลากรของพรรคการเมืองดังกล่าว

พร้อมกันนี้ อยากเรียกร้องให้ผู้บริหารอดีตพรรคก้าวไกล ที่เป็นคนนำพา สส. คนกล่าวที่ถูกกล่าวหาเข้าสู่การเมืองและได้รับการเลือกตั้งเป็น สส. เพราะความนิยมของพรรค ออกมาขอโทษพี่น้องประชาชนด้วย เนื่องจากผู้บริหารพรรคก้าวไกลในอดีตมักพูดเสมอว่าเป็นเพราะกระแสความนิยมพรรคจึงได้ สส. มาเป็นจำนวนมาก

ช่วงท้าย รองโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ ยังกล่าวด้วยว่า ตนขอชื่นชมในความกล้าหาญของนักท่องเที่ยวชาวไต้หวัน ที่จะยืนหยัดต่อผู้ถูกกล่าวหาซึ่งมีเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยไม่เกรงกลัวกับอำนาจใดๆ และประเด็นที่สังคมควรให้ความสำคัญไม่น้อยไปกว่ากันคือ มาตรการเยียวยาผู้เสียหายที่ได้รับผลกระทบทางร่างกายและจิตใจ ยิ่งกว่านั้นในสังคมไทยควรจะร่วมมือกันรณรงค์ในการป้องกัน สอดส่องดูแลไม่ให้ผู้ใด โดยเฉพาะเด็กและสตรี ตกเป็นเหยื่อได้อีก.