ตร.สระแก้ว บุกตรวจค้น รีสอร์ทดังในเมืองอรัญประเทศ ให้ที่พักบัญชีม้า แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ก่อนข้ามแดนไปสแกนหน้าฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา
วันที่ 23 ก.พ. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่สั่งการมายังตำรวจภูธร ภาค 2 ให้เร่งสืบสวนและขยายผลในการป้องกันปราบปรามขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์และบัญชีม้า บริเวณชายแดน จ.สระแก้ว และเจ้าหน้าที่ได้ออกสืบสวนหาข่าว จนกระทั่งสืบทราบว่า รีสอร์ทชื่อดังแห่งหนึ่งในเมืองอรัญประเทศ บริเวณ ถ.สุวรรณศร กม.3 ฝั่งซ้าย ต.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เป็นสถานที่พักพิงของกลุ่มผู้เปิดบัญชีม้าให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ก่อนเดินทางข้ามแดนออกไปสแกนหน้าในฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา แล้วกลับมาหลอกลวงคนในประเทศไทย
ต่อมาเมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 23 ก.พ. 68 พล.ต.ต.ถาวร ดุลยวิทย์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.จตุรภัทร สิงหัษฐิต รอง ผบก.ภ.จว.สระแก้ว, พ.ต.อ.อโณทัย จินดามณี ผกก.สภ.คลองลึกฯ, พ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพร ผกก.ตม.จว.สระแก้ว สนธิกำลังร่วมกับ บก.สส.ภ.2, ฉก.อรัญประเทศ กกล.บูรพา และ จนท.ฝ่ายปกครองอำเภออรัญประเทศ จ.สระแก้ว บุกเข้าตรวจสอบรีสอร์ทดังกล่าวซึ่งเป็นรีสอร์ทชื่อดังแห่งเมืองอรัญประเทศ ตั้งอยู่บน ถ.สุวรรณศร ต.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว

…
พบน.ส.นัน (นามสมมุติ) อายุ 55 ปี แสดงตัวเป็นผู้จัดการรีสอร์ทฯ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภออรัญประเทศฯ ได้ขอดูใบอนุญาตประกอบการโรงแรม แต่น.ส.นัน ไม่สามารถนำใบอนุญาตมาแสดงได้ โดยยอมรับว่าตนเองเป็นผู้จัดการรีสอร์ทและไม่มีใบอนุญาตการเปิดโรงแรมกับนายทะเบียน และเมื่อตรวจสอบทะเบียนผู้เข้าพักพบว่า มีชาวต่างชาติเป็นชาวอินโดนีเซียเข้าพักในรีสอร์ท 9 ราย แต่ไม่มีการแจ้งการเข้าพักของชาวต่างด้าวให้ ตม.จว.สระแก้วทราบอีกด้วย
เจ้าหน้าที่จึงปิดรีสอร์ทและควบคุมตัวน.ส.นัน ส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว ดำเนินคดีเปิดกิจการโรงแรมโดยไม่ได้รับอนุญาต และ ตม.จว.สระแก้ว ดำเนินคดีไม่แจ้งที่พักของชาวต่างด้าวอีกกระทง
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเผยว่า การเข้าตรวจสอบและจับกุมรีสอร์ทแห่งนี้เป็นการขยายผลมาจากการสอบสวนช่วยเหลือเหยื่อบัญชีม้าที่ถูกหลอกไปสแกนหน้าให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งกัมพูชา โดยพบว่าแก๊งดังกล่าวจะนำคนไทยเจ้าของบัญชีม้าที่ถูกชักชวนและถูกหลอกให้มาพักคอยที่รีสอร์ทดังกล่าว ก่อนจะพาข้ามแดนไปสแกนใบหน้าให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเขมร จึงนำกำลังเข้าตรวจค้นและพบว่ารีสอร์ทดังกล่าวเป็นรีสอร์ทเถื่อน ไม่มีใบอนุญาตประกอบการโรงแรม ซึ่งจะได้สอบสวนเพื่อจับกุมเจ้าของรีสอร์ทมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.