“อดีตนายกฯ ทักษิณ” เป็นวิทยากรพิเศษ แชร์ประสบการณ์ให้ทีม กทม. พรรคเพื่อไทย แนะลงพื้นที่ฟังปัญหาประชาชน ด้าน “ดนุพร-จักรพงศ์” ประสานเสียงไม่เป็นความจริง สั่งขับพรรคร่วมหากไม่โหวตรับร่างเอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์

วันที่ 7 เมษายน 2568 เมื่อเวลา 09.00 น. ที่โรงแรมเอสซี ปาร์ค พรรคเพื่อไทย (พท.) จัดกิจกรรม “RE-UNITE เพื่อไทยกรุงเทพ” มี น.ส. ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช. มหาดไทย และ สส. กทม. พรรคเพื่อไทย นายดนุพร ปุณณกันต์ สส. บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ผู้ช่วย รมว. วัฒนธรรม นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ ที่ปรึกษา รมว. คมนาคม ในฐานะหัวหน้าโซนรับผิดชอบ กทม. รวมถึง สก. กทม. พรรคเพื่อไทยเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง โดยเวลา 14.30 น. นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เป็นวิทยากรพิเศษ ขึ้นบรรยายในหัวข้อ “เรียนรู้จากผู้รู้”

โดยนายดนุพร เปิดเผยว่า นายทักษิณในฐานะผู้มีประสบการณ์เคยไปอยู่เมืองหลวงใหญ่หลายประเทศได้มาเล่าประสบการณ์การพัฒนาเมืองให้กับสมาชิกพรรคเพื่อไทย รับฟังยกตัวอย่าง เช่น การพัฒนาเมืองใหญ่ให้เป็นสมาร์ทซิตี้ โดยนำ AI มาเชื่อมโยงวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อบริหารจัดการความเรียบร้อยของเมือง เช่น การจัดการขยะ จราจร สิ่งแวดล้อม สาธารณสุข และแก้ปัญหาอาชญากรรม

นายดนุพร กล่าวว่า นายทักษิณยังให้กำลังใจ สส. และ สก. พรรคเพื่อไทยว่า เนื่องจากขณะนี้พรรคเพื่อไทยมี สก. 28 คนจาก 50 เขตถือว่ามีทหารราบเยอะ จึงต้องช่วยรับฟังปัญหาประชาชนในพื้นที่ อะไรที่สภา กทม. แก้ไขได้ก็ให้ดำเนินการ แต่ถ้าอะไรทำไม่ได้ก็ให้ส่งข้อมูลมายังส่วนกลางคือรัฐบาล โดยประสานผ่าน น.ส. ธีรรัตน์ ในฐานะ รมช. มหาดไทย

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังเสร็จสิ้นการเป็นวิทยากรพิเศษ นายทักษิณได้เดินทางกลับทันที โดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด

พท. ประสานเสียงไม่เป็นความจริงขับพรรคร่วม

จากนั้นนายดนุพร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกระแสข่าว นายทักษิณ แจ้งแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลว่าหากไม่เห็นชอบร่าง พ.ร.บ. การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ จะพิจารณาให้ออกจากการร่วมรัฐบาลทันที ว่า เรื่องนี้ไม่จริง นายทักษิณไม่เกี่ยวกับพรรคหรือเกี่ยวกับรัฐบาล เรื่องนี้ถ้าจะกำชับกันเกี่ยวกับเสียง สส. คงเป็นเรื่องของรัฐบาลมากกว่า ความเห็นต่างเกี่ยวกับกฎหมายนั้นมีทุกยุคทุกสมัย เห็นได้จาก พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียมซึ่งทุกอย่างสามารถพูดคุยกันได้ ตนยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องจริง

ด้านนายจักรพงศ์ แสงมณี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนเห็นข่าวดังกล่าวแล้ว ไม่เชื่อตั้งแต่แรก เพราะเรื่องนี้เริ่มมาตั้งแต่รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ นายทักษิณไม่จำเป็นที่จะมาบอกพรรคไหนไม่เห็นด้วยจะขับออกจากพรรคร่วมรัฐบาลตามที่เป็นข่าว ทั้งหมดเป็นเรื่องของสภาฯ และเป็นเอกสิทธิ์ของ สส. ทุกคนที่จะลงมติอยู่แล้ว เมื่อถามว่า มองการปล่อยข่าวลักษณะนี้ต้องการผลอะไร นายจักรพงศ์ กล่าวว่าผู้ปล่อยข่าวคงพยายามกระแสปั่นป่วน ร่าง พ.ร.บ. เอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ มากกว่า ส่วนจะทำให้สะดวกหรือไม่นั้นตนตอบไม่ได้อยู่ที่สภา แต่เรื่องนี้เป็นนโยบายที่ดีที่จะนำเม็ดเงินเข้าสู่ประเทศจะมีการลงทุนเป็นแสนล้าน เป็นการลงทุนระยะยาวเพิ่มยอดค่าใช้จ่ายนักท่องเที่ยวต่อคน ที่สำคัญคอมเพล็กซ์มีกาสิโนแค่ 10% ส่วนที่เหลือ 90% จะเป็นกิจกรรมอื่นๆ อาทิ สวนน้ำ โรงละคร สถานที่จัดคอนเสิร์ต สถานที่ชอปปิ้ง เมื่อนักท่องเที่ยวเข้ามาทุกคนในครอบครัวสามารถมีกิจกรรมได้