“ธรรมนัส” มั่นใจ พรรคกล้าธรรมปักธงเลือกตั้งซ่อม สส.นครศรีธรรมราช เขต 8 เหล่าแกนนำช่วยปราศรัยขอคะแนนให้ “ก้องเกียรติ” แย้ม สส.ฝ่ายค้าน จ่อย้ายซบ ยัน ไม่ใช่ไทยสร้างไทย ไม่ขัดหาก พปชร. หวนร่วมรัฐบาล
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 25 เมษายน 2568 ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม (กธ.) พร้อม นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะหัวหน้าพรรคกล้าธรรม นำแกนนำ สส. และสมาชิกพรรค ลงพื้นที่ช่วย นายก้องเกียรติ เกตุสมบัติ หรือ บิ๊กโอ ผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม สส.นครศรีธรรมราช เขตเลือกตั้งที่ 8 หาเสียงที่โรงเรียนบ้านทอนวังปราง ต.ละอาย อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช โดยทันทีที่มาถึง ร.อ.ธรรมนัส และนางนฤมล นำนายก้องเกียรติ สักการะรูปหล่อพ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ วัดสวนขัน เกจิอาจารย์ที่ชาวนครศรีธรรมราชเคารพนับถือเป็นอย่างมาก และพระพุทธมิ่งมงคล รวมถึงศาลเจ้าพ่อบ้านทอนวังปราง เพื่อความเป็นสิริมงคล
ต่อมา นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร ในฐานะเลขาธิการพรรคกล้าธรรม ปราศรัยว่า พรรคเราไม่ใช่พรรคใหม่ อยู่กันมาตั้งแต่เป็นพรรคเศรษฐกิจไทย (ศท.) อยู่กันแบบครอบครัว หาเสียงภาคใต้เราลงมาทุกครั้งกับ ร.อ.ธรรมนัส ซึ่งพรรคกล้าธรรมมี สส.อยู่ทุกภาค แต่วันนี้เราต้องการ สส.อีกคน อยากได้คนมาบอกความเดือดร้อนของพี่น้องเขต 8 นครศรีธรรมราช จะได้รู้ จะได้ทำ สำหรับ สส. ไม่ได้เหมือนกันทุกคน บางคนพูดในสภาฯ พูดจนปากฉีก แต่แก้ไขปัญหาประชาชนไม่ได้ บางคนพูดน้อยแต่แก้ปัญหาได้ ร.อ.ธรรมนัส พูดแล้วว่าต้องมีคอนเนกชั่น ต้องสั่งการสั่งงาน ใจถึงพึ่งได้ ถ้าชอบต้องเลือกนายก้องเกียรติ พวกเราทำจริงทำได้ ตนอยู่มาหลายพรรคแล้วไม่มีที่ไหนดูแลเหมือนครอบครัวแบบนี้ ตนขอเดิมพันถ้านายก้องเกียรติเข้าไปสภาฯ แล้วไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง พวกเราจะไม่กลับมาเหยียบอะไรที่นี่อีกเลย
…
“เวทีเลือกตั้งแห่งนี้ไม่ใช่เวทีที่เอาญาติพี่น้องหรือใครทำผิดมาลง เวทีแห่งนี้ไม่ใช่เวทีที่ใครสอบตกที่ไหนจะมาลง แต่คนๆ นี้รอที่จะลง เตรียมตัวที่จะลงในเขต 8 เป็น สจ. รับใช้พี่น้องมาตลอด แล้วนี่เขตบ้านเกิดนายก้องเกียรติ จะเอาคน อ.ฉวาง หรือไม่ วันนี้ต้องเลือกคนบ้านเรา ผมแอบได้ยินราคาต่อรองเหมือนเราจะนำด้วย เชียร์มวยตัวใหญ่ไม่ผิดหวัง กลับบ้านไปช่วยบอกให้เลือกเราให้ชนะขาดได้หรือไม่ ไปชวนมาว่าให้เลือกคนชนะ”

ทางด้าน นายอรรถกร ศิริลัทยากร สส.ฉะเชิงเทรา ในฐานะนายทะเบียนพรรคกล้าธรรม ปราศรัยว่า นายก้องเกียรติ เป็นคนใจนักเลงเหมือน ร.อ.ธรรมนัส ไปที่ไหนช่วยเหลือเต็มที่ เลือกตั้งรอบนี้ต้องชนะ จริงๆ นายก้องเกียรติมาสายไป 2 ปี ตอนเลือกตั้งปี 2566 เจ้าตัวตั้งใจจะลง สส.เขตนี้ แต่อาจจะคุยกันไม่ลงตัวกับทีมงาน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความบาดหมางในพื้นที่ และเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความขัดแย้ง นายก้องเกียรติที่เป็นลูกผู้ชายจึงถอย ทำให้ชาว อ.ฉวาง เสียโอกาสในการใช้คนหนุ่มคนนี้ไป 2 ปีแล้ว
จากนั้น นางนฤมล ขึ้นเวทีปราศรัยว่า มีพรรคไหนขนมาทั้งพรรคขนาดนี้ ทั้งหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค ประธานที่ปรึกษาพรรค นายทะเบียนพรรค เหรัญญิกพรรค อย่างไรก็ตาม พรรคเราเป็นสายพันธุ์รักสงบ แต่ถึงเวลาเรารบ เราต้องรบไม่ขลาด แล้วเราจะรวมกันไปช่วยกันรบจนกว่าเราจะได้ชัยชนะกลับมา วันนี้นายก้องเกียรติถือเป็นครอบครัวกล้าธรรม วันนี้ถือเป็นโค้งสุดท้ายที่เข้าสู่การเลือกตั้งที่จะมีความสำคัญสำหรับ จ.นครศรีธรรมราช ปัจจุบันเราไม่มีผู้แทนในนครศรีธรรมราชที่จะเป็นปากเป็นเสียงให้กับเราในสภาฯ ถามว่า สส. นครศรีธรรมราช เขต 8 เพิ่มมาอีก 1 คน พรรคกล้าธรรมจะได้อะไรเพิ่มขึ้นหรือไม่ เราได้เหมือนเดิม สัดส่วนรัฐมนตรีตำแหน่งต่างๆ ก็ไม่มีเปลี่ยนแปลง แต่สิ่งที่เราจะได้คือมีโอกาสได้เข้ามารับใช้ ได้เข้ามาดูแลพี่น้องที่ อ.ฉวาง พวกเราพรรคกล้าธรรมจะกลับมาพัฒนาให้ อ.ฉวาง มีความเจริญ ได้รับสิ่งที่ต้องการได้รับ การดูแลให้ความเป็นธรรมกับพี่น้องเกษตรกรและทุกอาชีพ


ต่อมา นายก้องเกียรติ ขึ้นปราศรัยว่า ตนเคยเดินทางไป จ.พะเยากับ ร.อ.ธรรมนัส จ.พะเยาพัฒนาขึ้นมาก ถนน 4 เลน ขณะที่เขตเรายังมีถนน 2 เลนอยู่เลย เราเสียโอกาสไปมาก ตนขอพี่น้องประชาชน วันที่ 27 เม.ย.ช่วยเลือกตนให้ชนะขาด โดยเฉพาะที่ ต.ละอาย อ.ฉวาง
ขณะที่ ร.อ.ธรรมนัส ขึ้นปราศรัยว่า คนเราเกิดมาเป็นเรื่องธรรมชาติ เกิดมาแล้วสัตว์โลกทั่วไปรักถิ่นฐานของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตามบนโลกใบนี้ มนุษย์คือสัตว์โลกที่ประเสริฐแล้วพูดได้ สื่อสารกันได้ คิดทำมาหากิน และเลี้ยงสัตว์โลกประเภทอื่น เราก็รักที่นี่ ต.ละอาย เป็นต้นน้ำแม่น้ำตาปี เป็นแม่น้ำที่ชุบเลี้ยงคน จ.นครศรีธรรมราช ลูกหลานคน ต.ละอาย ลงสมัคร สส. พี่น้องจะเลือกหรือไม่ เป็นลูกหลานของท่าน เกิดที่นี่ ตอนปี 2566 มีคนให้นายก้องเกียรติลาออกจาก สจ. มาลงสมัคร สส. แต่สุดท้ายไม่ได้ลง สส. ตนจึงบอกว่ามาลงสมัครในนามพรรคกล้าธรรม แต่ต้องทำใจ พรรคเราพูดไม่เก่ง แต่ทำงานเก่ง เราโดนโจมตีว่าเป็นพรรคนักเลง มีคนมาถามตน จึงตอบว่าตนใจนักเลง มีปัญหาอะไรหรือไม่ พี่น้องอย่าเอาคนที่พูดจาเพราะแต่ทำอะไรไม่ได้ ไม่มีประโยชน์ ต้องพูดให้น้อยและพัฒนา อย่าให้คน ต.ละอาย แพ้เขา บ้านนี้เมืองนี้จะพัฒนาเมื่อท่านเลือกคนกล้าคิด กล้านำเสนอ และกล้าทำในสิ่งที่เกิดประโยชน์กับประชาชน

ต่อมา ร.อ.ธรรมนัส ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อช่วงเช้ามีโอกาสไปพบกับครอบครัวหมอดินอาสา จ.นครศรีธรรมราชมากันเยอะ ตลอดเวลาที่ตน รมว.เกษตรสหกรณ์และส.ส.ของพรรคกธ.อยู่ที่ จ.นครศรีธรรมราช กระแสพี่น้องชาว อ.ฉวาง อ.พิปูน อ.นาบอน อ.ช้างกลาง ตอบรับพรรคกล้าธรรม และนายก้องเกียรติ เป็นอย่างดี เมื่อวานที่ตนขึ้นรถแห่หาเสียงที่ อ.ช้างกลาง คนในพื้นที่ได้ออกมาโบกไม้โบกมือ พวกเราทักทายประชาชนทุกหลังคาเรือนและได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีมาก ตนมั่นใจมากว่าการเลือกตั้งในครั้งนี้พรรคกล้าธรรมสามารถปักธงได้ที่นี่
เมื่อถามว่าทั้งหัวหน้าพรรคกล้าธรรมและ ร.อ.ธรรมนัส เคยประกาศว่าพรรคกล้าธรรม จะปักธงทั้ง 14 จังหวัดภาคใต้ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า วันนี้พรรคกล้าธรรมมีทั้งหัวหน้าพรรคเลขาธิการพรรค สส. ของพรรคกล้าธรรมมาที่นี่ทั้งหมด ตนก็มานอนที่นี่หลายคืนแล้ว ซึ่งเราทุ่มกับการเลือกตั้งเต็มที่ไม่ใช่เฉพาะที่นี่
จากนั้นเวลา 14.30 น. ร.อ.ธรรมนัส เปิดเผยว่า ในสัปดาห์หน้าพรรคกล้าธรรมจะมีสมาชิกมาเพิ่มอีก จะมีคนจากพรรคฝ่ายค้านประกาศอยากจะเข้ามาอยู่กับเรา โดยประกาศจุดยืนและมาร่วมกับพรรคกล้าธรรม ซึ่งตนบอกไปว่าอย่ามาเป็นชนวนให้ทะเลาะกัน เพราะเราไม่ชอบทะเลาะกับใคร ซึ่งจะมากันเป็นกลุ่ม ผู้สื่อข่าวถามว่าใช่ สส.พรรคไทยสร้างไทย 5 คน ที่เคยเป็นข่าวใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส ตอบว่า ไม่ใช่พรรคนั้นแต่เป็นพรรคอื่น

เมื่อถามว่าหากจำนวน สส.เพิ่ม โควตารัฐมนตรีจะเพิ่มหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส ระบุว่า ตนคุยกับหัวหน้าพรรคตลอดเวลาว่าเราต้องการทำพรรคให้ใหญ่ แค่นั้น ไม่คิดไปต่อรองกับใคร และยืนยันว่าพรรคกล้าธรรมไม่ใช่พรรคสำรองของใคร เราต้องการสร้างครอบครัวให้มีความมั่นคงและยิ่งใหญ่ ขยายไปเรื่อยๆ และหากอาทิตย์นี้ได้เพิ่มอีกคน ก็จะเพิ่มอีกในคำถามย้ำว่าหากมีสมาชิกเพิ่มก็ถือเป็นความชอบธรรมที่จะได้โควตาเพิ่มใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส เผยว่า ตนไม่ได้โลภมากอะไรในทางการเมือง แต่ต้องการสร้างครอบครัวให้แข็งแรง ส่วนเป้าหมายที่ตั้งไว้จะเพิ่มอีกเท่าไหร่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตนทำการบ้านกับคณะผู้บริหาร เราเริ่มวางตัวว่าที่ผู้สมัครแล้ว คนที่เป็น สส.ปัจจุบันที่ซ่อนตัวอยู่ ก็อยากเข้ามา ตนก็บอกว่าอย่าเพิ่งเลยเดี๋ยวจะทะเลาะกัน รอให้ถึงเวลาบ้านเมืองวิกฤติค่อยมาช่วยกัน
สำหรับกระแสข่าวว่ารัฐบาลจะดึงพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) มาร่วม หากเป็นจริงจะร่วมงานกันได้หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส ตอบว่า ตนคือกล้าธรรม และกล้าธรรมก็มีครอบครัวของเราที่อบอุ่น อยู่กันแบบพี่น้อง ไม่มีนายมีบ่าวหรือลูกน้อง ดังนั้น พรรคไหนจะมาหรือไม่เราไม่สนและไม่เกี่ยว อย่ามายุ่งกับพรรคเราก็แล้วกัน เมื่อถามย้ำว่า สามารถทำงานร่วมกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส เผยว่า เราทำงานให้กับทุกคน แต่ต้องยึดผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นที่ตั้ง ที่สำคัญพรรคเราเชิดชูสถาบัน เราชัดเจน ไม่ต้องเป็นอีแอบ
ผู้สื่อข่าวถามต่อ คิดว่า พล.อ.ประวิตร จะยอมกลับมาร่วมรัฐบาลหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า “นี่ลุงนัส ไม่ใช่ลุงป้อม ไม่อาจพูดแทนได้ ปีนี้รับเบี้ยผู้สูงอายุ 600 แล้ว” ในช่วงท้ายเมื่อถามถึงความเป็นไปได้หรือไม่ที่พรรคเพื่อไทย จะทิ้งพรรคภูมิใจไทยออกจากพรรคร่วมรัฐบาล ร.อ.ธรรมนัส มองว่า เราอยู่อย่างทุกวันนี้ก็ดีอยู่แล้ว ตนคิดว่าไม่มีหรอก อย่าไปฟังข่าวมาก ตนก็อินไซด์มากพอสมควร รักกันดีกว่า บ้านเมืองเจริญ.