ตำรวจขอหมายเข้าค้น “บ้านหมอสมุนไพร” ปราจีนบุรี ตรวจยึดยาสมุนไพรและเครื่องผลิตยา พร้อมทั้งอุปกรณ์ทางการแพทย์ เพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริง

จากกรณีเมื่อวันที่ 3 พ.ค. 68 สาธารณสุขจังหวัดปราจีนบุรี ร่วมกับฝ่ายปกครอง, ตำรวจ สภ.วังตะเคียน, สาธารณสุขอำเภอกบินทร์บุรี ได้ร่วมกันตรวจพื้นที่บ้านคลองมะเดื่อ ม.8 ต.วังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ในประเด็นการลักลอบผลิตยาหรือผลิตภัณฑ์สมุนไพรโดยไม่ได้รับอนุญาต และเปิดสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต และประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต (อ่านข่าว : จนท. ลงพื้นที่ตรวจสอบ “บ้านหมอสมุนไพร” ปมสาวร้อง แม่ป่วยมะเร็งดับ หลังไปรักษา)

ต่อมาเมื่อวันที่ 4 พ.ค. 68 แพทย์หญิงอรรัตน์ จันทร์เพ็ญ สสจ.ปราจีนบุรี นายนัฐพงษ์ ขันธรักษ์ เภสัชกรชำนาญการ สสจ.ปราจีนบุรี ได้เข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับ นายพรชัย อายุ 48 ปี อยู่หมู่ที่ 8 ต.วังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี โดยกล่าวหาว่า “ประกอบกิจการผลิต นำเข้า หรือขายผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่รัฐมนตรีได้ประกาศตาม มาตรา 6(1) ประกอบวิชาชีพเวชกรรมหรือแสดงด้วยวิธีใดๆ ว่าพร้อมที่จะประกอบอาชีพเวชกรรม โดยมิได้เป็นผู้ประกอบอาชีพวิชาชีพเวชกรรม ตามพระราชบัญญัตินี้ ประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยมิได้รับอนุญาต” นั้น

ล่าสุดเช้าวันนี้ (5 พ.ค. 68) นายพรชัย อายุ 48 ปี ได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน ที่ สภ.วังตะเคียน เพื่อให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน เมื่อถึงเวลานัดปรากฏว่านายพรชัยไม่ยอมเดินทางไปพบพนักงานสอบสวนแต่อย่างใด ทางพนักงานสอบสวนจะเตรียมออกหมายเรียกอีกครั้ง หากไม่มาตามนัดก็จะขออนุมัติหมายจับต่อไป

พล.ต.ต.เกียรติศักดิ์ สระทองออย ผบก.ภ.จว.ปราจีนบุรี ได้สั่งการไปยังหัวหน้าสถานี เพื่อขอหมายค้นเข้าตรวจสอบ การตรวจสอบต้องเชิญเจ้าหน้าที่จากสาธารณสุขทางอำเภอ รวมค้นหาหลักฐานอย่างละเอียด ซึ่งต้องให้มีผู้เชี่ยวชาญเข้ามาด้วยเพราะหลักฐานบางชิ้นเกี่ยวกับตัวยาต้องใช้ผู้เกี่ยวข้อง

ต่อมา พ.ต.อ.พงศ์อนันต์ รักษาชาติ ผกก.สภ.วังตะเคียน พร้อมทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.วังตะเคียน ได้เดินทางไปขอหมายศาลจังหวัดกบินทร์บุรี เพื่อขอเข้าทำการตรวจค้นภายในบ้านของ นายพรชัย อายุ 48 ปีที่มีการเปิดรักษาผู้ป่วยด้วยสมุนไพรและมีการจัดเป็นสถานที่พยาบาลภายในบ้านพัก เมื่อศาลอนุมัติหมายได้เดินทางไปที่บ้านนายพรชัย พร้อมกับทางเจ้าหน้าที่ปกครองอำเภอกบินทร์บุรี เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดปราจีนบุรี

เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึง ได้เข้าทำการตรวจค้นภายในบ้านพักเป็นจุดแรก โดยมีชายกลางคนคอยกันไม่ให้สื่อมวลชนและคนอื่นเข้าไปภายใน เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปพบกับตัวนายพรชัย พร้อมชาวบ้านนอกพื้นที่บางส่วนอยู่ในบ้านพัก จากการตรวจสอบพบมีขวดบรรจุน้ำสมุนไพรหลายชนิดอยู่ในบ้าน ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการพูดคุยกับตัวนายพรชัย ศรีกอง โดยไม่ให้คนอื่นรับทราบแต่อย่างใด

ต่อมา คนดูแลแทนตัว นายพรชัย ได้พาเจ้าหน้าที่ตรวจรอบบริเวณบ้าน พบสายให้น้ำเกลือจำนวนมาก พร้อมเข็มฉีดยา กล่องที่ใส่น้ำเกลือจำนวนหนึ่ง ทางเจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดไว้เป็นของกลาง ก่อนที่ตัวแทนจะพาไปดูโอ่งน้ำที่เป็นข่าว โดยให้ข้อมูลว่าเป็นน้ำหมักใช้เป็นปุ๋ย ไม่ใช่ยาที่รักษาคนป่วย ส่วนอาคารกลาง ทางเจ้าหน้าที่พบตู้อบสมุนไพร พร้อมสมุนไพรอยู่ในตู้โชว์จำนวนมาก ทางเจ้าหน้าที่จึงขอนำไปตรวจสอบ แต่ก็มีการโต้เถียงกับผู้ดูแลเล็กน้อย นอกจากนั้นภายในพื้นที่ยังพบโอ่งที่หมักสมุนไพรจำนวนหลายโอ่ง โดยพระจารย์บุญเลิศอ้างว่าทำไว้ฉันท์เองเพื่อรักษาตัวเองเท่านั้น

ต่อมาในช่วงบ่าย เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้นำตัวนายพรชัย อายุ 48 ปี พร้อมชาวบ้านเป็นผู้ป่วยที่อยู่ในบ้านที่เกิดเหตุ เดินทางไปสอบสวนที่ สภ.วังตะเคียน ในระหว่างที่เจ้าตัวเดินทางถึงที่ สภ. ผู้สื่อข่าวได้สอบถามตัว นายพรชัยว่า มีอะไรจะพูดหรือไม่ ทางเจ้าตัวไม่ยอมพูดแต่อย่างใด

นางสาวทิพากร อายุ 47 ปี ผู้ป่วยโรคตับแข็ง ได้มาให้กำลังใจทางนายพรชัย พร้อมกล่าวว่า เป็นการรักษายาสมุนไพรโดยตรง สิ่งที่ออกสื่อไม่ใช่ความจริง ตนก็อยู่กับแกโดยตลอด เป็นผู้ป่วยเองโรคตับแข็งป่วยมาครึ่งปี แล้วมารักษากับอาจารย์เกือบปี อาการดีขึ้นและหายแล้ววิธีการรักษาก็กินยาและฉีด เราก็ทราบดีว่าเป็นยาเกี่ยวกับโรคที่เราเป็น อาการที่รับยาแล้วมีอาการปกติ ได้ยาไปประมาณเกือบ 100 เข็ม ยา 200 มล. น้ำเกลือ 300 มล. การฉีดก็แล้วแต่เส้นเราขึ้นตรงไหน ให้ยาและให้น้ำเกลือด้วย

เมื่อให้ยาเสร็จแล้วก็ทำความสะอาดบริเวณที่เรานอน ตอนที่ป้านิด (ผู้ป่วยมะเร็งที่ว่ามารักษาแล้วเสียชีวิต) มาขอรักษาที่สำนัก ก็เจอกับพวกเรา อาการป้านิดหนักมาเลย และจิตใจแกอ่อนแอมาก แกไม่เอาอะไร ไม่ฟังใคร แกไม่ไหว และเป็นน้องสาวพามา อาจารย์ยังไม่ทันได้รักษา เพราะอาจารย์กำลังอยู่การจัดงานศพแม่ ป้านิดมา 1 วัน ก็เสียชีวิต อาจารย์บอกว่าไม่รักษา เพราะทำคีโมและฉายแสง

นายนัฐพงษ์ ขันธรักษ์ เภสัชกรชำนาญการ สสจ.ปราจีนบุรี ได้กล่าวว่า เราส่งตัวอย่างสมุนไพรไปวิเคราะห์ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ภาค 2 จังหวัดชลบุรีจะทราบผลภายใน 30 วัน ถ้ากรณีเป็นคดีความก็อาจจะได้ผลเร็วกว่าปกติ การตรวจสอบก็ทำให้หลักฐานแน่นขึ้นวันนี้ที่ลงไปตรวจสอบพื้นที่มาก็ได้เก็บของกลางและอายัดของกลางไว้ อาทิ เช่นอุปกรณ์การผลิตก็อายัดไว้ เพราะมันชัดเจนมาก และผลิตภัณฑ์สมุนไพรสายน้ำเกลือเป็นอุปกรณ์ให้สารน้ำทางเส้นเลือดดำ อุปกรณ์ใช้แล้วก็ต้องไปซักพยานประกอบว่าได้มีการให้สารทางหลอดเลือดดำจริงไหม ทางด้านสาธารณสุขส่วนที่เกี่ยวข้องตรงนี้ก็เป็นการทำหลักฐานประกอบคำฟ้องเช่นส่งผลวิเคราะห์ตัวอย่างที่เก็บไปตรวจแล้วนำผลมาแนบสำนวนในการส่งฟ้อง ส่วนที่เหลือก็เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนสถานบริการตรงนี้เขาไม่ได้ขออนุญาต มันก็ไม่ถูกต้องอยู่แล้ว ดังนั้นก็ไม่ควรไปใช้บริการในสถานที่ที่ไม่ได้ขออนุญาตอยู่แล้ว.