“พ่อพระโย” เผย ลูกชายขอบวชเพื่ออุทิศส่วนกุศล ไม่ใช่บวชหนีปัญหา เตรียมสึก 10 พ.ค. นี้ ยอมรับได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม โอดโดนสื่อโซเชียลกระหน่ำซ้ำเติมโดยไม่มีเหตุผล

จากกรณีพบชายรายหนึ่งเสียชีวิตภายในรถเก๋ง หน้าร้านกาแฟแห่งหนึ่ง ในหมู่ที่ 6 ต.หนองบัว จ.ลพบุรี เมื่อวันที่ 4 พ.ค. 68 โดยในโลกออนไลน์มีการแชร์เรื่องราวที่คาดว่าเป็นมูลเหตุสลดในครั้งนี้ เพราะผิดหวังจากความรัก ธุรกิจที่สร้างด้วยกันกับคนรัก LGBT เกือบ 30 ล้าน จากวิมานรักกลายเป็นวิมานหนาม ขณะที่ “พระโย” อดีตคนรักที่ออกบวช ได้ออกมาชี้แจง โดยอ้างว่า ผู้ตายนอกใจก่อน ส่วนมหากาพย์โพสต์ 11 EP กับกรณีกู้เงินลงทุน 22 ล้านมาลงทุนนั้น ไม่เป็นความจริง ตามที่ได้รายงานไปแล้วนั้น (อ่านข่าว : เปิดปมวิมานรักล่ม “พระโย” อ้างคนตายนอกใจ กู้เงิน 22 ล้านลงทุนไม่เป็นความจริง

ล่าสุด เมื่อเวลา 11.45 น. วันที่ 7 พ.ค. 68 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังไร่แห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.หนองบัว อ.พัฒนานิคม ลพบุรี ริมเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ซึ่งในวันนี้ไร่ ร้านยังไม่เปิดให้บริการ โดยมีผู้ดูแลร้าน ดูแลไร่ ได้เชิญผู้สื่อข่าวเข้าชม สวนเฟิร์น สวนสัตว์ขนาดเล็กมีปลาสวยงาม นกแก้ว เป็ด ห่าน แพะ รอบสถานที่ร่มรื่น ที่ทางเจ้าของได้จัดไว้อย่างลงตัวสวยงาม เพื่อรอลุงประยูร อายุ 74 ปี พ่อของพระโย ที่ออกไปไถไร่ทำข้าวโพด

ต่อมา เวลา 12.05 น. ลุงประยูร ได้มาถึงไร่ในสภาพยังอิดโรยเหน็ดเหนื่อยจากทำงานหนัก ได้กล่าวต้อนรับผู้สื่อข่าว พร้อมกับพาเดินชมสถานที่ไร่ และร้าน เนื้อที่กว่า 60 ไร่ และอีกกว่า 40 ไร่ ที่ปลูกข้าวโพด ที่ตนเองเป็นเจ้าของ แต่ได้มอบให้กับพระโยไปดูแลนานแล้ว โดยตนเองรับผิดชอบเป็นผู้ดูแลต้นไม้ เฟิร์น เนื่องจากตนเองเป็นผู้ที่เริ่มต้นปลูกมานานกว่า 10 ปี ก่อนสถานการณ์โควิด-19 ระบาด ไร่ของตนเองขายเฟิร์นมีรายได้เดือนละนับแสนบาท จนขยายต่อยาวไปเรื่อยหลายไร่ ซึ่งขณะนี้ก็ยังมีลูกค้าเดิมก็ยังมาขอซื้อประจำ เริ่มต้นราคาต้นละ 500-2,000 บาท

ลุงประยูร กล่าวต่อว่า หลังเกิดเหตุการณ์ ตนเองก็พลอยได้รับผลกระทบไปด้วยทั้งทางตรงและทางอ้อม สื่อโซเชียลกระหน่ำซ้ำเติมโดยไม่มีเหตุผล และไม่ได้รู้เรื่องจริง ไร่นี้ ที่ตรงนี้เป็นของตน คนตายมันมีกระเป๋ามาใบเดียว เห็นว่าเป็นคนที่ลูกรักก็เลยตามเลย ปล่อยให้เขาดำเนินการเกี่ยวกับการขยับขยายไร่ ร้านออกไปจนเป็นหนี้เป็นสินล้นพ้น ต้องเอาที่ไปจำนองกับธนาคาร เสียดอกเบี้ยเดือนละเกือบแสน ซึ่งขณะนี้รวมเงินต้นดอกเบี้ยกว่า 11 ล้านแล้ว ซึ่งตนเองมองว่าครอบครัวถูกเอาเปรียบจากผู้อื่น “ลูกโยได้ขอบวชเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้คนตาย เพื่อให้จิตใจได้สงบ ไม่ใช่บวชเพื่อหนีปัญหา ผมรู้จิตใจของลูกดี เขาไม่เคยได้เปรียบใคร ลูกจะครบกำหนดลาสิกขาบทในวันที่ 10 พ.ค. นี้”

ตนเอง ลูกหลาน พระโย และครอบครัวเครือญาติจะร่วมกันเปิดร้านกาแฟ เปิดร้านค้า เปิดไร่ ให้นักท่องเที่ยวมาเยือนเหมือนเดิม เงินเก็บส่วนตัวมีอยู่จำนวนหนึ่งจะให้ลูกได้ลงทุนสู้ต่อ ไม่ยอมแพ้ ถึงแม้ไม่มีคนงาน เชื่อว่าร้านเราจะกลับมาคึกคักเหมือนเดิม

จากนั้น “ลุงประยูร” พาผู้สื่อข่าวเดินดูรอบบริเวณไร่ ร้าน และยังพาดูร่องรอยที่ทางผู้เสียชีวิต ทุบทำลายกระจก ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ และยังลบคลิปวงจรปิดที่ลงมือกระทำทุบทำลาย ซึ่งในวันเกิดเหตุเวลาประมาณ 02.00 น. ที่เกิดเหตุสลดในรถเก๋ง ตนเองยังเดินมาดู แต่เนื่องจากกระจกติดฟิล์มมองไม่เห็นใคร ทางครอบครัวก็ได้ห้ามตนเองออกมาดู เพราะกลัวมีอาวุธปืน เนื่องจากขวัญได้ข่มขู่ตนเองและลูกหลานไว้

หลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการเก็บร่างชันสูตรพลิกศพเบื้องต้นก่อนนำตัวไปส่งพิสูจน์ที่นิติเวช บ่ายวันเกิดเหตุลูกโยก็ได้ขอบวชเลย ทางลูกโยและลูกหลาน ได้คุยกันว่าจะเหมารถตู้ไปเพื่อเคารพศพแสดงความอาลัย แต่หากทางนั้นไม่อยากให้ไป ไม่ยินดีต้อนรับก็ดี เพราะตนเองได้ลั่นวาจา และกล่าวกับทุกคนแล้วว่าจะไม่ไปเผา.