หนุ่มวัย 31 จมน้ำดับ หลังกระโดดลงคลอง หนีตำรวจที่นำหมายศาลตรวจค้นบ้าน เพื่อตามจับ “น้องชาย” ซึ่งเป็นผู้ต้องหาคดียาเสพติด

วันที่ 9 พฤษภาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงสายของวันนี้ ขณะที่ ร.ต.อ.ชัยรัตน์ เจี๊ยะรัตน์ รองสว.(สอบสวน) สภ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครศรีธรรมราช ปฏิบัติหน้าที่พนักงานสอบสวนเวร (ร้อยเวร 30) ได้รับการประสานทางวิทยุสื่อสาร จาก พ.ต.ท.มนต์ชิต เพ็งแก้ว รองผกก.สส.(สืบสวน) สภ.เฉลิมพระเกียรติ ขอกำลังสนับสนุนในการติดตามผู้ต้องหา ที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ หมู่ 3 ต.สวนหลวง อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครศรีธรรมราช

จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.นคร ภู่รัตน์ ผกก. พ.ต.ท.พีระพงศ์ ยอดสุรางค์ รองผกก.(สอบสวน) นำกำลังรุดไปสมทบสนับสนุน พบว่าบ้านหลังดังกล่าว ปลูกอยู่ริมคลองฆ้อง เป็นพื้นที่รอยต่อระหว่าง 3 อำเภอ คือ อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอเชียรใหญ่ และอำเภอชะอวด

พ.ต.ท.มนต์ชิต ซึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุ รายงานให้ ผกก.สภ.เฉลิมพระเกียรติ ทราบว่า ได้นำกำลังชุดสืบสวนมาที่บ้านหลังดังกล่าว หลังสืบทราบว่า นายไกรสร หรือ เข้ม กิ่งเพชร อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาคดียาเสพติด ซึ่งอยู่ระหว่างหลบหนีคดี ได้หวนย้อนกลับมากบดานที่บ้านหลังดังกล่าวซึ่งเป็นบ้านเกิด

โดยเมื่อกำลังตำรวจเข้าปิดล้อม นางกัลยา (สงวนนามสกุล) เจ้าของบ้าน ได้ตะโกนเสียงดังว่า “ตำรวจมาๆ” ให้คนในบ้านได้ยิน ปรากฏว่าคนในบ้าน ทราบว่าคือ นายสุวิทย์ อายุ 31 ปี ซึ่งเป็นพี่ชายของนายไกรสรผู้ต้องหา ได้กระโดดออกจากบ้าน แล้วกระโจนพุ่งหลาวลงไปในคลองฆ้อง ว่ายน้ำหลบหนีและหายตัวไป

หลังทราบรายงานเบื้องต้น พ.ต.อ.นคร ได้ประสานชุดประดาน้ำของมูลนิธิใต้เต็กตึ้ง มาร่วมสนับสนุนค้นหานายสุวิทย์ในคลองดังกล่าว ใช้เวลาพักใหญ่ ก็พบร่างของนายสุวิทย์ จมอยู่ก้นคลองในสภาพเสียชีวิตแล้ว จึงประสานแพทย์เวร รพ.เฉลิมพระเกียรติ มาร่วมชันสูตรศพ แพทย์ระบุสาเหตุการเสียชีวิต คือสำลักน้ำและขาดอากาศหายใจ

โดย พ.ต.อ.นคร ภู่รัตน์ ผกก.สภ.เฉลิมพระเกียรติ เผยว่า พ.ต.ท.มนต์ชิต เพ็งแก้ว รองผกก.สส.สภ.เฉลิมพระเกียรติ ได้นำหมายค้นของศาลจังหวัดปากพนัง ที่ 70/2568 ลงวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 ไปที่บ้านหลังดังกล่าวเพื่อตรวจค้น และจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ

เนื่องจากเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า นายไกรสร หรือเข้ม กิ่งเพชร ลูกชายของเจ้าของบ้าน และเป็นน้องชายของผู้ตาย เป็นผู้ต้องหาคดียาเสพติด ตามหมายจับของศาลจังหวัดปากพนัง ที่ 72/2568 ลงวันที่ 18 เมษายน 2568 ซึ่งอยู่ระหว่างการหลบหนีคดี ได้แอบย้อนหวนกลับเข้ามาในพื้นที่ เจ้าหน้าที่จึงได้ขอหมายค้นจากศาล และกำลังเข้าตรวจค้น

แต่ปรากฏว่า เมื่อเจ้าหน้าที่นำกำลังเข้าพื้นที่ แม่ของผู้ต้องหาได้ตะโกนให้คนในบ้านไหวตัว นายสุวิทย์ซึ่งเป็นพี่ชายของผู้ต้องหา ได้กระโดดวิ่งหนีออกจากบ้าน ไปกระโจนลงน้ำในคลอง

ซึ่งจากการสอบปากคำชาวบ้านพยานแวดล้อมในเวลาต่อมา ให้การระบุว่า พบเห็นว่านายสุวิทย์ ว่ายน้ำไปถึงกลางคลองแล้วจมน้ำหายตัวไป กระทั่งเจ้าหน้าที่ระดมกำลังตำรวจกับกู้ภัยและชุดประดาน้ำ ค้นหาจนพบร่างในสภาพที่เสียชีวิตแล้วดังกล่าว

ในชั้นนี้ ได้สั่งการให้นำศพไปตรวจชันสูตรเพิ่มเติมอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติ หลังจากนั้นจะได้มอบศพให้ญาติ รับไปเพื่อดำเนินการตามประเพณีต่อไป