“สาวยูเครน” รับสารภาพพังห้องพักเสียหาย 3.5 แสนแล้วหายเข้ากลีบเมฆ ไม่มาพบพนักงานสอบสวน สภ.วิชิต เพื่อส่งตัวฟ้องศาลแขวง สุดท้ายชุดสืบสวนต้องนำหมายจับเข้าหิ้วตัวกลางคอนโดหรู

จากกรณีสาวโพสต์อุทาหรณ์ ปล่อยคอนโดฯ ที่ภูเก็ตให้กับชาวต่างชาติเช่า โดยดำเนินการผ่านเอเย่นต์ และเมื่อมีการตรวจสอบห้องเช่า หลังได้รับแจ้งจากคนเช่าว่าออกจากห้องพักและได้โยนกุญแจทิ้งถังขยะไปแล้ว ทางผู้ดูแลห้องจึงเข้าตรวจสอบภายในห้องพัก พบว่าห้องพักถูกทำลายจนได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก

นอกจากนั้นยังมีการวาดรูปและขีดเขียนตามผนังและฝ้าเพดานห้อง โดยมีข้อความหนึ่งที่ทำให้หลายคนเกิดความสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างผู้เช่าและคนให้เช่า โดยข้อความดังกล่าวระบุตัวเลข 32,000 ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นการทวงเงินค่าประกันห้องเช่า ซึ่งทางเจ้าของคอนโดได้ชี้แจงไปแล้วนั้น (อ่านข่าว: เจ้าของแจงดราม่าเงินประกัน 32,000 เผยสาวยูเครนพังห้องไม่ใช่คนทำสัญญาเช่า)

ล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 13 พ.ค. 68 พ.ต.อ.สมศักดิ์ ทองเกลี้ยง ผกก.สภ.วิชิต ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ธีระวัฒน์ อำนาจเจริญยิ่ง รอง ผกก.สส.พร้อมด้วย พ.ต.ท.วุฒิวัฒน์ เลี้ยงบุญจินดา รอง ผกก.ป.พ.ต.ต.วิทยา กุลน้อย สว.สส.ร.ต.ต.สุนทร นุ่นคง รอง สว.สส.สภ.วิชิต นำกำลังชุดสืบสวนพร้อมหมายจับของศาลจังหวัดภูเก็ต ลงวันที่ 11 พ.ค. 68 เข้าตรวจสอบและจับกุม น.ส.อนาสตาเซีย อายุ 19 ปี สัญชาติยูเครนในข้อหาทำให้เสียทรัพย์ โดยพบผู้ต้องหาที่ห้องพักภายในคอนโดมิเนียมในพื้นที่ หมู่ 5 ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ตนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.วิชิต เพื่อดำเนินคดีตามข้อกล่าวหา

สืบเนื่องผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษกับผู้เช่าห้องพักในคอนโดมิเนียมใกล้ห้างสรรพสินค้าชื่อดังในพื้นที่ ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต หลังจากผู้เช่าทำให้ห้องเช่าดังกล่าวได้รับความเสียหายมูลค่ากว่า 3.5 แสนบาท

จากนั้นพนักงานสอบสวน สภ.วิชิต ได้ออกหมายเรียกตามขั้นตอนของกฎหมาย เนื่องจากโทษของข้อหาทำให้เสียทรัพย์นั้นมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ยังไม่สามารถเสนอต่อศาลออกหมายจับได้ โดยการออกหมายเรียกในครั้งที่ 1 ผู้เช่าหรือผู้ถูกกล่าวหาไม่มาพบพนักงานสอบสวน ขณะเดียวกัน สภ.วิชิต ได้มีการประสานไปยังด่านตรวจคนเข้าเมืองท่าอากาศยานภูเก็ต เพื่อแจ้งเตือนให้เจ้าหน้าที่ ตม.ทราบ กรณีพบตัวผู้ถูกกล่าวหา คือ น.ส.อนาสตาเซีย สัญชาติยูเครนให้แจ้งต่อผู้ถูกกล่าวหากรณีถูกออกหมายเรียก เพื่อเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.วิชิต

ต่อมาเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเมืองท่าอากาศยานภูเก็ตพบ น.ส.อนาสตาเซีย กำลังจะเดินทางออกนอกประเทศ จึงแจ้งต่อ น.ส.อนาสตาเซีย กรณีถูกแจ้งข้อกล่าวหาดังกล่าวและมีหมายเรียกต้องไปพบพนักงานสอบสวน เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา จึงได้ประสานมายัง พ.ต.อ.สมศักดิ์ ทองเกลี้ยง ผกก.สภ.วิชิต ทราบ พร้อมนำกำลังชุดสืบสวนมารับตัวไปพบพนักงานสอบสวน สภ.วิชิต และเมื่อ น.ส.อนาสตาเซียมาพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียกพร้อมรับทราบข้อกล่าวหาทำให้เสียทรัพย์แล้ว โดย น.ส.อนาสตาเซียให้การรับสารภาพในช่วงเย็นของวันเดียวกัน

จากนั้นพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีต้องส่งตัวฟ้องต่อศาลแขวงจังหวัดภูเก็ตตามขั้นตอนของกฎหมาย แต่เนื่องด้วยวันที่นำตัวผู้ต้องหามารับทราบข้อกล่าวหาเป็นวันหยุด จึงได้นัดหมายกับ น.ส.อนาสตาเซีย ให้มาพบพนักงานสอบสวนอีกครั้งในวันทำการ และเมื่อถึงวันนัด น.ส.อนาสตาเซีย ไม่มาพบพนักงานสอบสวน ทำให้พนักงานสอบสวนต้องเสนอต่อศาลอนุมัติออกหมายจับเมื่อวันที่ 11 พ.ค. 68

จากนั้น พ.ต.อ.สมศักดิ์ ทองเกลี้ยง ผกก.สภ.วิชิตได้สั่งการให้ชุดสืบสวน สภ.วิชิต ออกติดตามจับกุมตัว น.ส.อนาสตาเซีย กลับมาดำเนินคดีตามกฎหมาย จนกระทั่งจับกุมตัวได้ขณะพักอยู่ที่คอนโดมิเนียมในพื้นที่หมู่ 5 ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต ในวันนี้ (13 พ.ค.) โดยอัยการฟ้องศาลแขวงจังหวัดภูเก็ตในเวลาต่อมา โดยศาลมีคำสั่งให้สืบเสาะและมีคำสั่งขังผู้ต้องหาในระหว่างดำเนินการสืบเสาะ เนื่องจากผู้ต้องหาไม่สามารถประกันตัวเองได้และไม่มีญาติมาประกันตัว