“ทวี” เปิดกิจกรรม “กำลังใจไร้กำแพง” ให้ผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดีได้พบหน้าครอบครัว ทั้งพ่อแม่ลูกและสามีภรรยา ด้าน “ทนายตั้ม” เป็นตัวแทนผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดีชื่นชมนโยบาย พร้อมขอให้เรือนจำทั่วประเทศช่วยอำนวยความสะดวกด้านเอกสารต่อสู้คดี
วันที่ 3 มิถุนายน 2568 ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง กรุงเทพมหานคร พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดกิจกรรม “กำลังใจไร้กำแพง” โดยมี นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์, นางสาววลัยลักษณ์ ชุ่มชื่น ผู้อำนวยการทัณฑสถานหญิงกลาง นำคณะผู้บริหารกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม ให้การต้อนรับ
ทั้งนี้ ก่อนเริ่มกิจกรรม พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้นำคณะผู้บริหารกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม ลงนามถวายพระพรต่อหน้าพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2568 และเยี่ยมชมนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ ด้วย

…
ใช้พลังครอบครัวสร้างสังคม
พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกิจกรรมในวันนี้ว่า กิจกรรม “กำลังใจไร้กำแพง” เปิดโอกาสให้ผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดีได้พบหน้าครอบครัว ทั้งพ่อแม่ลูกและสามีภรรยาในทางกฎหมาย ที่ต่างคนมาจากคนละเรือนจำหรือคนละแดน การจัดกิจกรรมนี้ไม่ได้จัดเฉพาะที่ทัณฑสถานหรือเรือนจำนี้เพียงแห่งเดียว แต่ยังจัดที่ทัณฑสถานหรือเรือนจำอื่นด้วย เหนือสิ่งอื่นใดก็คือ เขาต้องกลับไปอยู่กับครอบครัว กระบวนการยุติธรรมไม่ใช่กระบวนการทำลายชีวิต แต่เป็นกระบวนการสร้างชีวิตสร้างสังคมที่ดีขึ้น โดยใช้พลังของครอบครัว เนื่องจากเป็นพลังของความรัก เป็นพลังของจิตวิญญาณ เราจึงจัดให้ครอบครัวได้มาพบกัน โดยหลังจากนี้เราจะจัดกิจกรรมแบบนี้อีกหลายแห่ง
“สิ่งที่สำคัญก็คือ เรือนจำต่าง ๆ มีผู้ก้าวพลาดเข้ามา ซึ่งเขาก็ต้องออกไป อย่างน้อยเขาก็ต้องเตรียมตัวออกไปสู่สังคม กรมราชทัณฑ์จะเป็นสถานที่ฟื้นฟู อย่างน้อยเวลาเขาได้ออกไปที่ไหนก็จะต้องนึกว่ากลับเข้าสู่สังคมแล้วจะอยู่อย่างไร หลายคนมองว่าการปล่อยตัวชั่วคราวสำคัญ เพราะบางคนจะมีความลำบากในการต่อสู้คดี เรามีระบบที่มีหลักประกันว่าเขาไม่หนี เรือนจำจะได้ลดความแออัด ซึ่งวันนี้เราก็ได้มาเห็นอะไรหลาย ๆ อย่าง” พันตำรวจเอก ทวีกล่าว

“ทนายตั้ม”ตัวแทนผู้ต้องขัง
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่ากิจกรรมวันนี้ มีผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดีเข้าร่วมกิจกรรมพร้อมหน้าครอบครัว ทั้งพ่อแม่ลูกและสามีภรรยาในทางกฎหมาย ที่ต่างคนมาจากคนละเรือนจำหรือคนละแดน มาพบปะกันกว่า 400 คนเป็นครั้งแรก นอกจากนี้ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ในฐานะตัวแทนผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดี กล่าวขอบคุณรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมที่จัดกิจกรรมฯ ในครั้งนี้
วอนอำนวยความสะดวกด้านเอกสาร
โดย นายษิทรา ชื่นชมที่มีนโยบายนำร่องให้เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และทัณฑสถานหญิงกลาง เป็นไปตามนโยบายแยกผู้ต้องราชทัณฑ์ ด้วยการแยกเรือนจำศูนย์ระหว่างพิจารณาคดี เพื่อเป็นศูนย์แยกการควบคุมผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดีและผู้ต้องขังเด็ดขาดออกจากกัน พร้อมขอให้ทัณฑสถานและเรือนจำทั่วประเทศอำนวยความสะดวกผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดีในเรื่องเอกสารต่าง ๆ ที่ต้องใช้ในการต่อสู้คดีในชั้นศาลด้วย