“เอกนัฏ” ส่งทีมสุดซอยชาร์จบริษัทจีนศูนย์เหรียญ ก่อนขยะพิษล็อตใหญ่จากสหรัฐฯ มาถึง ฮึ่ม! หัวหมออ้างชื่อรัฐมนตรีวิ่งเต้นหนีผิด สั่งลากคอถึงที่สุด

วันที่ 5 มิถุนายน 2568 จากกรณีเครือข่ายปฏิบัติการบาเซล (Basel Action Network : BAN) แจ้งเตือนรัฐบาลไทยว่า จะมีเรือบรรทุกสินค้าจากประเทศสหรัฐอเมริกา จำนวน 35 ลำ จะเข้าเทียบท่าที่ท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี ตั้งแต่วันที่ 30 พฤษภาคม – 21 มิถุนายน 2568 ซึ่งภายในอาจนำเข้าขยะอันตรายและผิดกฎหมายมายังประเทศไทย จำนวน 222 ตู้คอนเทนเนอร์ แบ่งเป็นตู้ขนส่งขยะอิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 219 ตู้ และขยะพลาสติก จำนวน 3 ตู้ นั้น

นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า หลังมีการแจ้งเตือนจาก BAN ได้มอบหมายให้นางสาวฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และหัวหน้าชุดตรวจการณ์สุดซอย หรือ “ทีมสุดซอย” กระทรวงอุตสาหกรรม ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง เบื้องต้นพบว่า บริษัท พี.ซี. วู๊ด จำกัด ที่ อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา เป็นหนึ่งในบริษัทที่ขอนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่กำลังลำเลียงจากประเทศสหรัฐอเมริกามายังประเทศไทยที่ BAN แจ้งเตือน จึงได้สั่งการให้ทีมสุดซอยลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบ บริษัท พี.ซี. วู๊ด จำกัด ทันที พบว่าขออนุญาตเป็นพื้นที่เขตปลอดอากร (ฟรีโซน) แล้วสร้างโกดังให้บริษัทอื่นเข้ามาเช่าพื้นที่ประกอบกิจการเกี่ยวกับการร่อนแยกเศษโลหะ รีไซเคิลเศษโลหะและเศษอะลูมิเนียมเพื่อนำไปใช้ใหม่ รวมถึงถอดแยกชิ้นส่วนอุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ และบดย่อยชิ้นส่วนอุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ที่ไม่เป็นของเสียอันตราย 

นายเอกนัฏ กล่าวต่อว่า ได้รับรายงานว่าทุกบริษัทในพื้นที่กระทำความผิดในหลายข้อหา ตั้งแต่การประกอบกิจการโดยไม่ได้รับอนุญาต ติดตั้งเครื่องจักรไม่ตรงตามที่แจ้งขออนุญาต เคลื่อนย้ายซ่อนเร้นของกลางที่ถูกยึดอายัดไว้ ไม่ปฏิบัติตามกฎกระทรวง เรื่องการควบคุมการปนเปื้อน และระบบขจัดมลพิษทางอากาศฯ เป็นต้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ใช้อำนาจตามกฎหมายดำเนินการตามฐานความผิด โดยสั่ง บริษัท พี.ซี. วู๊ด จำกัด ให้หยุดประกอบกิจการทั้งหมด ซึ่งทางกรมศุลกากรก็จะเสนอให้ผู้บริหารพิจารณาระงับสิทธิประโยชน์ทางภาษีกับ บริษัท พี.ซี. วู๊ด จำกัด รวมทั้งแจ้งความดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญาด้วย

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมบอกด้วยว่า บริษัทเหล่านี้ล้วนแล้วแต่มีพฤติกรรมตั้งเครือข่ายนิคมฯ ศูนย์เหรียญ มีการกระทำความผิดซ้ำซากโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย บางบริษัทพยายามวิ่งเต้นโดยแอบอ้างถึงชื่อตนและทีมสุดซอย แต่ไม่เป็นผล โดยกระทรวงฯ จะติดตามผู้ที่พยายามวิ่งเต้นมาดำเนินคดีโดยเด็ดขาดต่อไป

ด้านนางสาวฐิติภัสร์ กล่าวเสริมว่า ปฏิบัติการครั้งนี้เป็นการบูรณาการร่วมกับกรมศุลกากร และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) โดยกรมโรงงานอุตสาหกรรม และสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา พบการกระทำผิดหลายกรณี โดยในส่วนของ บริษัท พี.ซี. วู๊ด จำกัด ถูกสั่งหยุดประกอบกิจการทั้งหมด และเสนอพิจารณาระงับสิทธิประโยชน์ทางภาษี ขณะที่ 4 บริษัทผู้เช่าพื้นที่ ได้แก่ บริษัท ซินฮุยเฉิง รีซอร์ส จำกัด บริษัท วินเวลล์ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด บริษัท รอยซ์ เมทเทิล อินดัสทรี จำกัด และ บริษัท พี.ซี. วู๊ดโพรดักส์ จำกัด พบความผิดในหลายกรณี ทั้งประกอบกิจการโรงงานก่อนถึงกำหนดวันได้รับอนุญาต ติดตั้งเครื่องจักรไม่ตรงตามที่แจ้ง เศษวัตถุดิบไม่อยู่ในพื้นที่จัดเก็บตามที่ได้ขออนุญาต และการเคลื่อนย้าย ซ่อนเร้น หรือทำให้ของกลางที่ยึดอายัดไว้ก่อนหน้านี้สูญหาย จึงดำเนินคดีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 141-142 ส่วนกรมศุลกากรจะเสนอผู้บริหารพิจารณาระงับใบอนุญาตในพื้นที่ฟรีโซนของบางบริษัท เนื่องจากกระทำผิดซ้ำซาก

หัวหน้าทีมสุดซอยบอกด้วยว่า เจ้าหน้าที่ยังพบว่าทุกโรงงานไม่ได้ปฏิบัติตามกฎกระทรวงและมาตรการเกี่ยวกับการควบคุมมลพิษ ทั้งการปนเปื้อนบนดิน และน้ำใต้ดิน ไม่มีการติดตั้งมาตรวัดปริมาณการใช้ไฟฟ้าสำหรับระบบควบคุมมลพิษทางอากาศโดยเฉพาะไว้ในที่ที่ง่ายต่อการตรวจสอบ และรางระบายน้ำฝนรอบบริเวณโรงงาน บางส่วนอยู่ในสภาพที่ไม่พร้อมใช้งาน ถือเป็นความไม่รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมของขบวนการอุตสาหกรรมศูนย์เหรียญ ที่ต้องเร่งกำจัดให้สิ้นซากโดยเร็ว นอกจากนี้ยังได้ไปตรวจสอบ บริษัท ซี ที สตีล จำกัด ตำบลเขาหินซ้อน อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา ประกอบกิจการรีไซเคิลเศษโลหะและเศษอะลูมิเนียม ตรวจพบไม่ปฏิบัติตามกฎกระทรวง และประกาศกระทรวง เรื่อง ควบคุมการปนเปื้อนในดิน น้ำใต้ดิน จึงดำเนินคดีตามกฎหมาย ขณะเดียวกันก็ได้ออกคำสั่งให้ปรับปรุงแก้ไขหลายจุดที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน และไม่ได้ปฏิบัติตามกำหนดด้วย